เบื้องหลัง ความเปลี่ยนแปลงสู่สังคมไร้เงินสด ของร้านอาหารในปี 2023

เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงสู่สังคมไร้เงินสดของร้านอาหารในปี 2023

ในปัจจุบันปี 2023 สังคมไร้เงินสดเป็นสิ่งที่กำลังก้าวข้ามเขตของการซื้อขายและการให้บริการของหลากหลายธุรกิจในท้องตลาด ร้านอาหารก็ไม่พลาดที่จะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ในการชำระเงินที่ทันสมัยและทันเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและส่งเสริมให้กับธุรกิจในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วันนี้ FoodStory เอาข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากเพื่อนๆผู้ประกอบการร้านอาหารเพื่อสามารถเข้าใจถึงการเปลี่ยงแปลงสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้นมาฝากกันค่ะ

เทคโนโลยีการชำระเงินแบบอัตโนมัติ : การทำรายการชำระเงินในร้านอาหารในปี 2023 มีความสะดวกสบายและรวดเร็วกว่าที่เคย ร้านค้านำเสนอระบบการชำระเงินอัตโนมัติที่มีความเชื่อถือสูง ทำให้ลูกค้าไม่ต้องคอยเสียเวลาในการรอคิวหรือรับเงินทอน

ความปลอดภัยในการชำระเงิน : ความปลอดภัยเป็นหัวใจของระบบชำระเงิน ร้านอาหารใช้เทคโนโลยีการชำระเงินที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่มั่นคง ป้องกันการขโมยข้อมูลและการทำธุรกรรมที่เป็นอันตรายต่อลูกค้า

การใช้บริการจากแอปพลิเคชัน : แอปพลิเคชันเกี่ยวกับการสั่งอาหารและชำระเงินเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ลูกค้าสามารถเลือกอาหารและทำรายการชำระเงินโดยใช้สมาร์ทโฟนของตนเอง ทำให้สะดวกสบายและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของร้านอาหาร

ระบบการสะสมแต้มหรือสิทธิประโยชน์ : การสะสมแต้มหรือสิทธิประโยชน์จากการชำระเงินเป็นสิ่งที่พบมากขึ้น ร้านอาหารนำเสนอโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับลูกค้าที่ใช้ระบบ cashless เพื่อเพิ่มความพึงพอใจและสร้างความภูมิใจในการเป็นสมาชิกของร้านค้า

การรวมการตัดสินใจ : ร้านอาหารได้รับประโยชน์จากการรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบ cashless อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สถิติการขาย รีวิวลูกค้า และรายการอาหารที่นิยม การใช้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ร้านค้าตัดสินใจในการพัฒนาเมนู โปรโมชั่น และกิจกรรมต่างๆ อย่างมีเสถียรภาพ

ในปี 2023 การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมไร้เงินสดของร้านอาหารเป็นเรื่องที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ การใช้ระบบ cashless เพื่อชำระเงินให้สะดวกสบายและปลอดภัยนำไปสู่ประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้า ร้านอาหารสามารถเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าและสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือให้กับธุรกิจเพื่อก้าวสู่อนาคตที่ไม่มีเงินสดอย่างมั่นคงและยั่งยืน

เครื่อง edc contactless payment เครื่องรูดบัตรกสิกรไทย

ผู้ประกอบการร้านอาหารทุกท่านคงจะเห็นภาพและเข้าใจมากขึ้นว่าว่าปัจจุบันการรับชำระเงินโดยไร้เงินสดนั้นช่วยเพิ่มโอกาสทางการขายเป็นอย่างมากและหากจะเสริมบริการจัดเต็มครบสูตรอย่าลืมศึกษาระบบจัดการร้านอาหาร FoodStory POS บริหารร้านอาหารอย่างมืออาชีพที่มีฟีเจอร์จำเป็นมากกว่า 200 ฟีเจอร์ รวมถึงการรับชำระค่าบริการร้านอาหารทุกรูปแบบผ่านช่องทางหลากหลาย เช่น เงินสด, Thai QR Payment, บัตรเครดิต, บัตรเดบิต, Alipay, WeChat pay ฯลฯ ใช้ร่วมกับ เครื่อง EDC A920Pro รูดบัตรเครดิตรุ่นใหม่ ไร้สาย ทันสมัย สะดวก ครอบคลุมรูปแบบการชำระเงินที่มากกว่าเดิม พร้อมตรวจสอบและบันทึกข้อมูลบิลอัตโนมัติ ตอบโจทย์ร้านอาหารทุกรูปแบบขั้นสุด!

FoodStory POS

ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน

ทดลองใช้ระบบฟรี: คลิกที่นี่เลย!

โทร: 065-513-7744 กด 1

เตรียมพร้อม! 4 ไอเดียบุกตลาด ขายอาหารออนไลน์ หนทางสร้างรายได้นอกเหนือจากหน้าร้าน

ขายออนไลน์

เตรียมพร้อม! 4 ไอเดีย ขายอาหารออนไลน์
หนทางสร้างรายได้ที่นอกเหนือจากการขายหน้าร้าน

ลากยาวตั้งแต่ช่วงโควิดเริ่มจนถึงช่วงหลังโควิดแบบช่วงนี้ ธุรกิจร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องทำการปรับตัวเป็นอย่างมากแน่นอนว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปยากจะหวนคืนก็คือพฤติกรรมผู้บริโภคของคนส่วนใหญ่ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารต่าง ๆ ไม่สามารถขายหน้าร้านได้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องหันมาเรียนรู้การขายแบบ Delivery เพิ่มเข้ามา อย่างไรก็เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง การวางแผนกลยุทธ์เพื่อพร้อมรับมือกับพฤติกรรมใหม่ ๆ เหล่านี้อยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ วันนี้ FoodStory จะพาทุกคนมาดูไอเดียใหม่ ๆ ในการบุกตลาด ขายอาหารออนไลน์ ไปด้วยกัน 

Continue reading

ระบบสะสมแต้ม อย่างเดียวคงไม่พอ เพราะ CRM ที่ดีต้องวิเคราะห์และทำการตลาดเฉพาะบุคคลได้

ระบบสะสมแต้ม

ระบบสะสมแต้ม เพื่อเพิ่มกำไรคงไม่พอ
เพราะ CRM ที่ดี ต้องวิเคราะห์โปรโมชั่น
และทำการตลาดไปหาลูกค้ารายบุคคลได้

“คุณลูกค้ามีสมาชิกกับทางร้านไหมคะ รบกวนบอกเบอร์สมาชิกเพื่อทำการสะสมแต้มได้เลยค่ะ” เราคงเคยได้ยินประโยคทำนองนี้กันบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ, ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ รวมไปถึงร้านค้าปลีกในห้างทั่วไป ว่าแต่ทำไมกันล่ะ เรามี ระบบสะสมแต้ม ไปเพื่ออะไร ร้านค้าได้อะไรจากการสมัครสมาชิกของเหล่าลูกค้าและผู้ใช้บริการกันบ้าง FoodStory POS มีคำตอบ

ระบบสะสมแต้ม

ระบบสะสมแต้ม คืออะไร?

ระบบสะสมแต้ม คือระบบที่ช่วยสนับสนุนในเรื่องของการทำการตลาดของร้านค้าต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาส และดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ สร้างระบบความจงรักภักดี หรือที่เรียกกันว่า Loyalty Program ซึ่งวิธีดังกล่าวส่งผลให้เรามีโอกาสในการได้เงินจากการใช้จ่ายของลูกค้า และตอบแทนกลับไปในรูปแบบของแต้มสะสม โดยแต้มนั้นสามารถนำไปทำอย่างอื่นได้ แล้วแต่รูปแบบการตลาดของแต่ละเจ้า เช่น แลกแต้มสะสมกับส่วนลดในการซื้อสินค้าภายในร้าน, แลกแต้มสะสมกับสินค้าของแถมสุด Exclusive หรือแลกแต้มสะสมกับสินค้าฟรี (ซื้อชานมครบ 10 แก้ว ฟรี 1 แก้ว) เป็นต้น

ซึ่งระบบการตลาดแบบนี้จะแตกต่างจากการตลาดอื่นๆ อย่างการทำการตลาดออนไลน์ หรือการตลาดออฟไลน์อื่นๆ ที่เราจะต้องลงทุนไปก่อน แล้วค่อยดูผลลัพธ์ภายหลัง ซึ่งเหมาะกับการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) แต่ระบบสะสมแต้ม เหมาะกับการนำข้อมูลการซื้อสินค้าและบริการ ไปใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรม หรือลักษณะนิสัยในการจับจ่าย (Customer Behavior Detection) เพื่อต่อยอดการตลาดอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย ซึ่งทั่วไปแล้วเรามักเห็นร้านค้าทำระบบสะสมแต้ม และแลกแต้มไปแค่เพียงหวังในการสร้าง ระบบความจงรักภักดี (Loyalty Program) เท่านั้น 

ระบบของ FoodStory CRM สามารถสร้างระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management) เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการสะสมแต้ม ไปวิเคราะห์พฤติกรรมในการซื้อของสมาชิก เพื่อช่วยในการคิดวิเคราะห์โปรโมชั่น เพื่อจัดทำโปรโมชั่นที่สามารถตอบโจทย์รายบุคคลได้อีกด้วย

ระบบสะสมแต้ม FoodStory CRM

ประโยชน์ของระบบสะสมแต้ม

ระบบสะสมแต้มนั้นมีประโยชน์ทั้งต่อผู้ซื้อและผู้ขาย โดยผู้ซื้อเองหากใช้บริการบ่อยๆ ก็สามารถได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น ส่วนลด หรือสินค้าของแถม เป็นต้น จากการเป็นลูกค้าประจำ (Loyalty) ส่วนผู้ขายเองก็ได้ลูกค้าที่จะมาใช้จ่ายสินค้าและบริการซ้ำเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการรู้จักตัวลูกค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้นจากข้อมูลที่มี สามารถสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ และสร้างความประทับใจให้กับผู้ซื้อในการซื้อสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดในส่วนของการนำข้อมูลที่ได้จากการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า มาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อปรับกลยุทธ์ในการเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย

ระบบสะสมแต้ม FoodStory CRM

เหตุผลที่ต้องมีระบบสะสมแต้ม

สำหรับการมีระบบสะสมแต้มไว้ในการทำกิจการค้าขายสินค้าและบริการต่างๆ มีเหตุผลอยู่ด้วยกันถึง 5 ข้อที่ว่า ทำไมเราควรจะต้องมีระบบสะสมแต้มดังนี้

  • เพื่อกระตุ้นการขาย และเพิ่มโอกาสในการหมุนเวียนรายได้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือเพื่อช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อสินค้าและบริการต่อไป เพื่อทำการสะสมแต้มแลกสิทธิพิเศษต่างๆ
  • สร้างความรู้สึกพิเศษ เช่น ความรู้สึกในการเป็นคนพิเศษ ที่จะได้ส่วนลด หรือได้แต้มจากการจับจ่ายใช้สอย เหนือกว่าคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกในระบบสะสมแต้ม และมีโอกาสที่จะกลับมาใช้บริการบ่อยๆ
  • สร้างการรับรู้ (Brand Awareness) ระบบสะสมแต้มสามารถกระตุ้น และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าลองสินค้าและบริการชนิดใหม่ โดยอาจจะสร้างจุดดึงดูดที่ว่า “ซื้อไก่ทอดรสใหม่ รับแต้มเพิ่ม 2 เท่า” เป็นต้น
  • สร้างกระแสในการจับจ่าย ตัวระบบสะสมแต้มสามารถดึงดูดให้ลูกค้าเชิญชวนเพื่อน คนรอบตัว หรือครอบครัว มาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มเติม เพื่อที่ตัวลูกค้าที่เป็นสมาชิก ได้รับคะแนนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ถูกใจลูกค้า เพิ่มกำไรให้กับร้านค้าได้อีกด้วย
  • รู้จักข้อมูลของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยระบบการเก็บข้อมูลของระบบสะสมแต้มนั้น สามารถช่วยให้ร้านค้าสามารถเก็บข้อมูลเพื่อนำไปปรับกลยุทธ์ในการขาย หรือปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นให้เหมาะสมได้
ระบบสะสมแต้ม

FoodStory CRM ระบบที่สามารถสนับสนุนระบบ สะสมแต้ม ให้สามารถผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

FoodStory CRM เป็นระบบจัดการสมาชิก ที่จะช่วยสนับสนุน ระบบสะสมแต้มให้สามารถจัดการข้อมูลและระบบสะสมแต้มได้อย่างแม่นยำ และ เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งมีข้อดีดังนี้

  • การสมัครสมาชิกสามารถทำได้ง่าย
  • ตั้งค่าคะแนนได้อย่างอิสระ
  • มีข้อมูลเชิงลึกทั้งในเรื่องของ อายุ เพศ รวมไปถึงลักษณะการใช้จ่าย พร้อมทั้งการติดแท็กเพื่อจัดกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สร้างโปรโมชั่นได้อย่างหลากหลาย
  • แจ้งคะแนนคงเหลือท้ายใบเสร็จ เพื่อสร้างความสะดวกให้กับลูกค้า
  • สามารถแลก-รับ คะแนนสาขาใดก็ได้ ( กรณีที่ร้านมีมากกว่า 1 สาขา )
  • มีระบบความปลอดภัยในการดูแลจัดการข้อมูลของลูกค้า
  • สามารถรองรับการตลาดออนไลน์ เช่น การเชื่อมต่อกับ LINE Official Account เพื่อให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าและผู้ติดตามได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
  • มีระบบการรายงานภาพรวมของสมาชิก และคะแนนต่างๆ รวมไปถึงโปรโมชั่น ผ่านหน้าต่าง Dashboard ที่สามารถจัดการ และดูภาพรวมได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้จะมีหลากหลายสาขา เพื่อสามารถปรับกลยุทธ์ในการจัดทำโปรโมชั่น และกลยุทธ์ในการจัดการการตลาดได้อย่างดี และมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม หัวใจหลักในการทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตามสามารถสำเร็จได้ หากมีความเข้าใจ และมีข้อมูลของพฤติกรรมของลูกค้าที่ชัดเจน และการปรับกลยุทธ์ต่างๆ ให้เข้ากับพฤติกรรมนั้นๆ นอกจากนี้การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายหลายอย่าง นอกเหนือจากระบบสะสมแต้ม ทั้งในเรื่องของการบริการ และคุณภาพของสินค้า รวมไปถึงระบบในการจัดการสิ่งต่างๆ ดังนั้น การเลือกระบบที่เหมาะสมในการทำธุรกิจ ทั้งสามารถช่วยจัดการทั้งข้อมูลเชิงลึกได้อย่างดี และสามารถอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับลูกค้า และเจ้าของกิจการนั้นๆ ได้อีกด้วย



FoodStory ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน
ทดลองใช้ระบบฟรี: คลิก

โทร: 065-513-7744 กด 1
LINE: https://lin.ee/zAdDsCr

ยิ่งรู้ใจลูกค้า ยิ่งมัดใจลูกค้า ด้วย Customer Insight ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า

ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า

Customer Insight
ยิ่งรู้ใจลูกค้า ยิ่งมัดใจลูกค้า
ด้วย ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า

การเป็นเจ้าของร้านอาหาร หรือทำธุรกิจใดใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่จะใช้เป็นกลยุทธ์เด็ด สำหรับใช้ในการมัดใจลูกค้า ที่อยากจะแนะนำในบทความนี้ ก็คือ การใช้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า มาช่วยให้เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า รวมไปถึงเข้ามาช่วยรักษาความสัมพันธ์ในระยะยาวระหว่างกัน หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ก็คือ เวลาที่เราอยากได้ใจใคร เราก็ต้องรู้ใจคนนั้นก่อนว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร จะได้เลือกทำแต่สิ่งที่เขาคนนั้นสนใจและชื่นชอบ เพื่อเป็นแต้มต่อในการทำคะแนนนั่นเอง ก็เหมือนกันกับเชิงธุรกิจ ยิ่งเรามี ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า มากเท่าไร ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น

ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า

ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า คืออะไร?

ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า หรือ Customer Insight คือ ข้อมูลลูกค้าที่ไม่ใช่เพียงแค่ข้อมูลทั่วไปพื้นฐาน หรือ ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ อาชีพ การศึกษา ที่อยู่ ฯลฯ เท่านั้น แต่ต้องเป็นข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์ ตีความมาแล้วระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลความสนใจ ข้อมูลด้านพฤติกรรม ความเชื่อ ทัศนคติ เพื่อจะได้เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง แล้วนำข้อมูลผลลัพธ์ที่ได้มาใช้สำหรับวางแผนทางการตลาดให้กับธุรกิจต่อไป

องค์ประกอบของข้อมูลเชิงลึก มีอยู่ด้วยกัน 4 ส่วน ได้แก่

1.คุณภาพข้อมูล คือ ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญ มีการใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลตามดัชนีตัวชี้วัดคุณภาพและองค์ประกอบที่กำหนดไว้

2.ทีมวิเคราะห์ คือ ทีมที่ทำหน้าที่เก็บ วิเคราะห์ และตีความข้อมูลของลูกค้า ว่ามีพฤติกรรมอย่างไรในปัจจุบันและรวมถึงในอนาคต นอกจากนี้ก็ช่วยในการสร้างต้นแบบที่เป็นตัวแทนกลุ่มลูกค้าให้เห็นภาพที่ชัดเจน รวมไปถึงนำเสนอสรุปผลคำแนะนำที่เข้าใจง่ายให้กับร้านอาหารหรือธุรกิจนั้นๆว่าควรจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

3.การวิจัยลูกค้า คือ การเก็บข้อมูลจากลูกค้า โดยเป็นการวิจัยลักษณะ ความสนใจ พฤติกรรมของลูกค้า ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การสอบถาม การสัมภาษณ์ และการสำรวจ เป็นต้น

4.การทำการตลาดบนฐานข้อมูล คือ รูปแบบการตลาดทางตรงที่ใช้ฐานข้อมูลของลูกค้าเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด หรือการทำคอนเทนต์

วิธีเก็บข้อมูลเชิงลึก เพื่อใช้มัดใจลูกค้า

FoodStory CRM ข้อมูลเชิงลึก

1.เก็บข้อมูลว่าลูกค้าหาอะไรบนโลกออนไลน์ เป็นการดึงเอาข้อมูลมาจากแหล่งต่างๆ ว่าผู้คนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจและชื่นชอบอะไร โดยใช้เครื่องมือที่ปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย อย่าง Google Trends ใช้สำหรับค้นหาสิ่งที่คนนิยม Search กันบน Google

FoodStory CRM ข้อมูลเชิงลึก

2.สัมภาษณ์เชิงลึก เป็นการสัมภาษณ์ที่ไม่ใช่การตั้งคำถามแบบ Q&A ปกติแต่จะเป็นการให้ลูกค้าบอกเล่าเรื่องราวแบบเป็นอิสระในขอบเขตของสิ่งที่เราต้องการรู้ และการตอบคำถามปลายเปิด ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีในแต่ละครั้ง ประมาณ 5-10 คน จะช่วยให้วิเคราะห์ความรู้สึกได้อย่างตรงจุุด เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงแก้ไข

ข้อมูลเชิงลึก

3.ดึงข้อมูลจาก Social Media ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหน ก็จะมีข้อมูลและสถิติต่างๆของผู้ติดตามของ Fanpage ได้จากการดูว่าสื่อโฆษณาตัวไหนที่ได้รรับความสนใจมากๆ กดไลก์กดแชร์ มีการติดต่อสอบถามเพิ่มเติม เป็นต้น

ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า

4.เก็บ Feedback ลูกค้า โดยการสร้างแบบฟอร์มเพื่อเก็บข้อมูลความคิดเห็นจากลูกค้า เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยให้รู้ถึงความรู้สึกและความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยวิธีการส่ง SMS ส่งผ่านอีเมล เป็นต้น

FoodStory CRM ข้อมูลเชิงลึก

5.สอบถามข้อมูลจากฝ่ายบริการหลังการขาย เนื่องจากเป็นฝ่ายที่มีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอยู่เสมอ ทำให้มักเป็นผู้ที่ใกล้ชิดได้รับฟังความคิดเห็นจากลูกค้ามากที่สุด จึงมีความเข้าใจลูกค้าเป็นอย่างดี สิ่งที่ได้จากฝ่ายบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมก็สามารถนำไปใช้เพื่อปรับปรุงแก้ไข หรือต่อยอดกับร้านอาหารเราหรือธุรกิจได้เป็นอย่างดี

จะดีกว่าไหม ถ้ามีตัวช่วยในการเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าแต่ละคน

ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อทุกภาคส่วน รวมถึงร้านอาหารอย่างเราๆด้วย ช่วยเข้ามาทุ่นแรงในการเก็บข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า ด้วย FoodStory CRM ที่เป็นระบบจัดการสมาชิก สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ช่วยในการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าที่ทำให้รู้จักลูกค้ามากขึ้น พร้อมกับการนำเสนอสิ่งที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า ช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความยั่งยืนให้กับร้านอาหาร

Customer Insight FoodStory CRM

ประโยชน์ที่ได้จาก FoodStory CRM

1.ทำให้รู้จักลูกค้ามากขึ้น ไม่ใช่แค่รู้เพียงข้อมูลทั่วไป อย่าง ชื่อ เบอร์ อีเมล แต่ยังสามารถเข้าใจพฤติกรรมของแต่ละบุคคลได้ เช่น ลูกค้าชอบสั่งเมนูอะไรบ่อยๆ? ชอบสั่งกินที่ร้านหรือห่อกลับบ้าน? 

2.ช่วยในการเพิ่มยอดขายต่อบิลได้ โดยการนำข้อมูลความชอบที่มีของลูกค้ามาวิเคราะห์จนรู้ใจ จึงสามารถแนะนำโปรโมชันที่เหมาะสม และโดนใจ จนสามารถเพิ่มยอดขายให้กับยอดบิลนั้นๆได้ไม่ยาก

3.สร้างกลยุทธ์การตลาดให้ร้านอาหาร โดยการนำข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ามาวิเคราะห์ เพื่อปรับกลยุทธ์ในการเพิ่มยอดขาย จัดทำโปรโมชันที่ตรงกลุ่มโดยเฉพาะ และสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ

จะเห็นได้ว่า การที่เรารู้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าผ่าน FoodStory POS มากเท่าไรยิ่งดี ทำให้สามารถใช้ประโยชน์ในการทำให้เจ้าของร้านอาหารรู้ใจลูกค้า จนสามารถมัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด แถมปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้การเก็บข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าทำได้ง่ายขึ้นให้เลือกใช้กับธุรกิจร้านอาหารของเรา รับรองได้ว่าการจะพิชิตใจลูกค้าให้มาภักดีกับร้านเราทำได้ไม่ยากแน่นอน

หากสนใจรับข้อมูลข่าวสารโปรโมชั่น สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ ……. 

FoodStory ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน

ทดลองใช้ระบบฟรี: คลิก

โทร: 065-513-7744 กด 1

LINE: https://lin.ee/zAdDsCr

วิธีบริหารร้านอาหาร ทำยังไงให้ปัง? โดยไม่ต้องเข้าร้านทุกวันก็ได้

วิธีบริหารร้านอาหาร

วิธีบริหารร้านอาหาร
ทำยังไงให้ปัง? โดยไม่ต้องเข้าร้านทุกวันก็ได้

มีใครเป็นเจ้าของร้านอาหาร แล้วมีความรู้สึกว่าเหนื่อยจัง ที่ต้องเข้าร้านทุกวัน แค่มีร้านเดียวยังเหนื่อยขนาดนี้ แล้วบางคนมีหลายร้าน เขาจะจัดการยังไง จำเป็นต้องเข้าร้านทุกวันไหม ถ้าไม่เข้าไปดูแลร้านเอง จะมี วิธีบริหารร้านอาหาร แบบไหนบ้างให้ยังปัง และเติบโตไปได้ด้วยดีกับ FoodStory POS

“แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้ามีตัวช่วย ให้เจ้าของร้านสามารถจัดการทุกอย่าง ผ่านช่องทางออนไลน์ จะอยู่ที่ไหนก็สามารถจัดการได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเข้าร้านเป็นประจำก็ได้”

ความสำคัญของการบริหารจัดการร้านอาหาร

ปัจจุบันมีร้านอาหารเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันกันสูง การที่จะสามารถเป็นร้านอาหารที่ครองใจคน และสามารถเติบโตได้ดี นอกจากทำเลที่ตั้งสะดวกสบาย ตกแต่งสวยงาม มั่นใจในรสชาติอาหารว่าเป็นเลิศ วัตถุดิบคัดสรรมาอย่างดี มีคอนเซ็ปต์ร้านชัดเจนแล้ว การให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการ ก็ถือว่าเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารของเราอยู่ไม่น้อย โดยเทคนิคที่จะแนะนำสำหรับการบริหารร้านอาหารมีด้วยกันดังนี้ 

FoodStory POS

1.รู้ภาพรวมรายละเอียดของงานร้านอาหาร

ขั้นแรกของการบริหารงานร้านอาหาร จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้เนื้องานภาพรวมทั้งหมดว่าต้องมีอะไรบ้าง ทำอะไร มีขั้นตอนอย่างไร เช่น การเปิดร้าน-ปิดร้าน ทำความสะอาดก่อนและหลังเปิด-ปิดร้าน การจัดเตรียมโต๊ะ การเตรียมวัตถุดิบ การสั่งวัตถุดิบและอุปกรณ์เครื่องใช้ เป็นต้น เมื่อรู้ถึงปริมาณงานแล้วก็จะได้จัดการบริหารในแต่ละส่วนให้เหมาะสมลงตัวที่สุด นอกจากนี้ก็เพื่อจะได้เข้าใจถึงความรู้สึกของพนักงานทุกคน ว่าต้องรับผิดชอบงานมากแค่ไหน อาจจะพบเจอกับปัญหาอะไรได้บ้าง เพื่อจะได้นำมาบริหารร้าน รวมไปถึงคิดแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง

FoodStory POS

2.จัดสรรพนักงานให้เหมาะสม

การเปิดร้านอาหารเป็นงานที่ค่อนข้างหนักพอตัว เนื่องจากมีหลายส่วนที่ต้องดูแล ทำให้ต้องมีพนักงานคอยช่วยแบ่งเบาภาระตามหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็น พ่อครัวหรือแม่ครัว พนักงานเสิร์ฟ แคชเชียร์ เป็นต้น โดยต้องมีการบริหารจัดการกับทรัพยากรบุคคลเหล่านี้ให้สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างราบรื่น เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการทำงาน การดึงเอาความสามารถที่โดดเด่นของแต่ละคนออกมา แล้วบริหารจัดการใช้ให้ถูกกับตำแหน่งงานที่ต้องรับผิดชอบที่สุด เพื่อความสุขของตัวพนักงานเอง และประโยชน์ต่อธุรกิจร้านอาหารเองด้วย

FoodStory POS

3.คุมมาตรฐานของรสชาติ

การทำร้านอาหารจำเป็นที่จะต้องมีค่ามาตรฐานรสชาติประจำร้าน โดยอาหารนอกจากจะต้องสะอาดแล้ว รสชาติอร่อยสม่ำเสมอเหมือนกันทุกวัน ซึ่งในส่วนนี้จะต้องทำการบริหารสูตรกับพ่อครัวหรือแม่ครัว ให้คงรสชาติที่เป็นมาตรฐานเดียวกันอยู่เสมอ

วิธีบริหารร้านอาหาร

4.คำนึงถึงความสะอาด

นอกจากความสะอาดของอาหารแล้ว ความสะอาดของสถานที่ ความสะอาดของอุปกรณ์ หรือแม้แต่ความสะอาดเรียบร้อยของพนักงาน อย่างการแต่งตัวเองก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่มีต่อการตัดสินใจมาใช้บริการครั้งถัดไปของลูกค้าได้

5.สำรวจและเก็บสถิติของลูกค้าเสมอ

หากอยากจะมัดใจลูกค้า ที่มาใช้บริการร้านอาหารของเรา สิ่งสำคัญคือการทำความรู้จักและทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า โดยการสำรวจว่ากลุ่มลูกค้าที่มาเป็นคนกลุ่มไหน อายุเท่าไร อาหารที่นิยมสั่งคือเมนูใด ช่วงเวลาใช้บริการคือช่วงวันและเวลาไหน  เพื่อนำสถิติที่ได้มาบริหารวางแผนเมนู หรือการบริหารให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่สุด จะได้เป็นการพัฒนาร้านอาหารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำมาซึ่งยอดขาย และกำไรนั่นเอง

วิธีบริหารร้านอาหาร

6.จัดการงบประมาณ

การทำบันทึกรายรับรายจ่าย ว่าคำนวณต้นทุนร้าน เมื่อหักลบกับยอดขายแล้ว ได้กำไรหรือขาดทุน เป็นเรื่องจำเป็นเพื่อที่จะได้รู้ถึงค่าใช้จ่าย เพื่อที่จะได้นำมาบริหารจัดการให้ได้กำไรมากขึ้น หรือนำมาควบคุม ปรับลดบางส่วนหากขาดทุน

วิธีบริหารร้านอาหาร

7.เปิดรับฟังผลตอบรับจากลูกค้า

การมีช่องทางสำหรับรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าเมื่อได้มาใช้บริหารร้านอาหารของเรา ว่ามีส่วนไหนที่ดีและส่วนไหนที่ต้องนำมาปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม จะเป็นการช่วยให้ร้านอาหารของเราพัฒนาได้ตรงจุดที่สุด

วิธีบริหารร้านอาหาร

8.ทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์

เครื่องมือที่เป็นช่องทางในการช่วยโปรโมทร้านให้เป็นที่รู้จักได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด คงจะหนีไม่พ้นสื่อออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, Tiktok หรือ LINE Official Account โดยต้องหมั่นทำคอนเทนต์เพื่ออัปเดต รายงานความเคลื่อนไหวของแต่ละช่องทางอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถช่วยดึงดูดให้ลูกค้าพบเห็นและรู้จักร้านอาหารของเราได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

จะดีกว่ามั้ยถ้าเจ้าของร้านอาหารไม่ต้องเข้าร้านเอง และยังสามารถจัดการภายในร้านได้อย่างครบครัน ผ่านข่องทางออนไลน์ ด้วยระบบ Web Owner จาก FoodStory POS

นอกจากวิธีการบริหารจัดการร้านอาหารตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การจะทำให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จมีกำไรต้องใช้ความตั้งใจและการวางแผนที่ดี โดยอาจจะต้องใช้ระยะเวลาและการติดตามผล ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีก็ได้เข้ามาทุ่นเวลาและลดต้นทุน มีส่วนช่วยให้การบริหารร้านอาหารของเราให้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเข้าไปที่ร้านก็สามารถทำดำเนินการได้ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตเท่านั้น จะได้นำเอาเวลาและงบประมาณที่เหลือไปวางแผนพัฒนาและต่อยอดธุรกิจต่อไปได้อีก

ตัวอย่างเช่น Features ของ FoodStory POS ที่เรียกว่า Web Owner ที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลของร้านอาหารจากที่ไหนก็ได้ โดยร้านอาหารที่ใช้เครื่อง POS ของ FoodStory ก็สามารถจัดการข้อมูลได้ง่ายๆผ่าน Website ได้เลย ซึ่งขอยกตัวอย่างฟีเจอร์เด่นๆ ดังนี้ 

วิธีบริหารร้านอาหาร

1.Realtime Report สามารถดูรายงานยอดขายได้ทุกที่ทุกเวลา

2. CRM Management จัดการระบบสมาชิกได้อย่างครบครัน เช่น

  • ดูและจัดการข้อมูลสมาชิก
  • สร้าง แก้ไข โปรโมชั่น
  • จัด กลุ่มลูกค้า Customer Tag เพื่อนำไปทำการตลาดเฉพาะกลุ่มได้อย่างง่ายดาย
  • ทำโปรโมชั่นผ่าน การBroadcast ผ่านช่องทาง Line OA 
  • ตั้งค่าการสะสมคะแนนได้
  • เลือกเปิด / ปิด เฉพาะสาขาได้
  • เชื่อมต่อ Line OA อัตโนมัติ เพื่อให้ลูกค้า รับโปรโมชั่น เช็คคะแนน สะสม แลกแต้ม ได้ง่ายขึ้น

3. Online Order Management ระบบจัดการร้านอาหารออนไลน์ ที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านก็สามารถเปิดร้านขายอาหารได้ เชื่อมต่อกับ Delivery สะดวกในที่เดียว

  • สามารถขายอาหารได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน
  • เชื่อมต่อและทำการตลาดออนไลน์บน Facebook, Instagram. และ Line ของร้านอาหาร
  • สามารถปรับเปลี่ยน เปิด-ปิด เมนูที่ต้องการขายออนไลน์ได้ง่ายๆ
  • แจ้งเตือน และติดตามออเดอร์ผ่านทางแอพพลิเคชัน Line ไม่เก็บค่า GP เพิ่ม
  • ลูกค้าสามารถสั่งแบบ Delivery และ Pick up (รับหน้าร้าน) รวมไปถึงสั่งล่วงหน้าได้
  • เชื่อมต่อการชำระเงินแบบ QR Payment และบัตรเครดิต หรือ เดบิต

4. Restaurant Management จัดการภาพรวมร้านอาหารได้ในที่เดียว เช่น

  • เพิ่มพนักงาน
  • สิทธิ์การทำงานพนักงาน
  • Menu Management (สร้างกลุ่มหมวดหมู่, สร้าง/แก้ไขเมนู, รายการตัวเลือก, Promotion)

5. Inventory On Web 

  • จัดการสินค้าคงคลัง 
  • เปิดใบ PR, PO, GR 
  • ผูกสูตรอาหารเพื่อตัดสต้อกอาหารอัตโนมัติ
  • เช็คสต็อกคงเหลือ
  • โอนวัตถุดิบข้ามสาขา
  • การตัดของเสียหาย
  • รายงานตรวจสอบวัตถุดิบ

6. Restaurant Info จัดการข้อมูลร้านอาหารได้อย่างละเอียด

7. Sale Chanel เพิ่ม ลด ช่องทางการขาย และตั้งค่าGP แต่ละช่องทางได้ด้วยตัวเอง

8. Master Data จัดการข้อมูลหลายสาขา เพื่อสามารถจัดการข้อมูลทุกสาขาได้ในครั้งเดียว เช่น เพิ่มเมนู แก้ไขราคา เปิดปิดเมนู หรือดูยอดขายทุกสาขาพร้อมๆกันได้

9. Integrate Flow Account เชื่อมต่อระบบบัญชี Flow account ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งตรงโดยอัตโนมัติ

  • Full Tax Invoice
  • ยอดสรุป Total Sale เมื่อมีการปิดรอบการขายสิ้นวัน
  • Paid Out เข้า flow account ตอนปิดรอบการขายสิ้นวัน
  • ข้อมูลใบ GR 

        – เข้าเฉพาะ Status GR เป็น Complete เท่านั้น!!

        – หากมีการกดรับแบบ Partial ข้อมูลจะเข้า flow account เมื่อรายการทั้งหมด complete

         หมายเหตุ :

  • Flow account – Classic เปิด PR, PO โดยไม่ต้องเลือก supplier หรือ เลือก supplier ก็ได้ค่ะ เมื่อกดรับ GR จะมีข้อมูลใบ GR เข้า Flow account
  • Flow account – Advance จะต้องเปิด PR, PO โดยต้องเลือก supplier เท่านั้น เมื่อมีการกดรับ GR ถึงจะข้อมูล GR เข้า flow account

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับเทคนิคการบริหารร้านอาหารให้เติบโต โดยไม่จำเป็นจะต้องเข้าร้านทุกวัน ถือได้ว่าตอบโจทย์คนที่มีธุรกิจหลายธุรกิจที่ต้องดูแล หวังว่าเทคนิคที่ให้ไปจะช่วยเป็นแนวทางให้เจ้าของร้านอาหารได้นำไปปฏิบัติและทำให้ธุรกิจปังๆกันทุกร้านเลย

FoodStory POS ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน
ทดลองใช้ระบบฟรี:  https://link.foodstory.co/business-management

โทร: 065-513-7744 กด 1
LINE: https://lin.ee/zAdDsCr

ลูกค้าเยอะขนาดไหนก็ไม่มีพลาด แค่มี FoodStory Staff แอปรับออเดอร์ ผ่านมือถือพนักงาน!

จดออเดอร์

ลูกค้าเยอะแค่ไหน ก็รับออเดอร์ได้หมดไม่มีพลาด
ด้วย FoodStory Staff แอปรับออเดอร์ ผ่านมือถือพนักงาน

‘จำไม่หมด จดไม่แม่น ใช้ FoodStory Staff ดีกว่าจ้า’ แล้วถ้าร้านอาหารที่ยังไม่มีตัวช่วยแบบ FoodStory Staff แอปรับออเดอร์ ผ่านมือถือพนักงานล่ะ จะทำอย่างไรให้ไม่พลาดและส่งออเดอร์ให้ส่วนครัวเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าเร็วทันใจ FoodStory มีเทคนิคดี ๆ สำหรับร้านค้าและพนักงานรับออเดอร์มาฝากรับรองว่า ลูกค้าเยอะขนาดไหนก็จดออเดอร์ไม่พลาด

จดออเดอร์

1) เพิ่มจำนวนพนักงานให้มากเพียงพอกับการบริการ

จะรองรับลูกค้าจำนวนมากได้ ไม่ใช่แค่ต้องเตรียมที่นั่งหรือขนาดร้านให้เหมาะกับความต้องการ แต่ต้องเตรียมเพิ่มจำนวนพนักงาน ให้มากพอที่จะให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึงด้วย โดยเฉพาะพนักงานรับออเดอร์อาหาร (ที่อาจรับหน้าที่ช่วยเสิร์ฟอาหารในตัว) อย่างน้อยพนักงาน 1 คนควรรับออเดอร์ ดูแลลูกค้า เติมน้ำ เสิร์ฟ เช็คออเดอร์ จัดการปัญหาเฉพาะหน้าของลูกค้าได้ 4-6 โต๊ะ หรือหาตัวช่วยพนักงานรับออเดอร์ เช่น FoodStory Staff เป็นต้น ก็จะช่วยให้อะไรง่ายขึ้นได้โดยไม่ต้องจ้างคนเเพิ่ม!

FoodStory Staff แอปรับออเดอร์

2) ใช้ตัวช่วยดี ๆ อย่าง FoodStory Staff แอปรับออเดอร์

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดสำหรับร้านอาหารในยุคนี้ที่ไม่เพียงแค่รับออเดอร์จำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็วทันใจ แต่ยังแม่นยำ ไม่ผิดพลาด และเสริมภาพลักษณ์ให้ร้านดูทันสมัยน่าเชื่อถือก็คือ แอป FoodStory Staff เพราะการจดออเดอร์ลงบนกระดาษแบบที่ผ่านมาสร้างความยุ่งยากให้พนักงานไม่น้อย แถมกว่าจะดึงข้อมูลเข้าฐานระบบสมาชิก CRM เพื่อนำไปต่อยอดวิเคราะห์ทำแผนกระตุ้นยอดขาย ก็กลายเป็นว่าเพิ่มภาระหน้าที่ให้พนักงานต้องทำงานเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
แอป FoodStory Staff สามารถให้พนักงานรับออเดอร์ง่าย ๆ จากลูกค้าได้ผ่านสมาร์ทโฟน เริ่มตั้งแต่การเปิดโต๊ะอาหารที่ว่างอยู่ รับออเดอร์ ตรวจสอบรายการอาหาร เช็คบิล ไปจนถึงดึงตรงสู่รายงานการวิเคราะห์ยอดขาย เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาการบริการ เลยเป็นคำตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับร้านอาหารทุกรูปแบบในยุคนี้

FoodStory Staff แอปรับออเดอร์

3 เหตุผลที่ควรใช้ FoodStory Staff แอปรับออเดอร์ ในร้านอาหารของคุณ

จากที่ FoodStory ยกตัวอย่างตัวช่วยจดออเดอร์ให้ไม่พลาด และยังรวดเร็วทันใจจะเห็นว่า มีวิธีและตัวช่วยให้เลือกเยอะมาก แต่ทำไมเราและลูกค้าที่เป็นร้านอาหารชั้นนำถึงยกให้การใช้ แอปรับออเดอร์ ผ่านมือถือพนักงานเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในการรับอเดอร์ เดี๋ยวเราจะมาบอกตัวอย่าง 3 เหตุผลนี้กัน

จดออเดอร์

1) ฟังก์ชันการใช้งาน ของ FoodStory Staff ครบครัน

ขณะที่การรับออเดอร์ด้วยวิธีอื่นจะทำได้แค่เพียงการจดเมนูอาหารที่ลูกค้าสั่ง แต่การใช้งาน FoodStory Staff พนักงานสามารถใช้ฟังก์ชันการดูแลลูกค้าได้แบบครบครัน เช่น 

  • รับออเดอร์เองได้ : ไม่ต้องเสียเวลานั่งจดทีละตัวอักษร เพราะสามารถตั้งค่าตัวเลือกเมนูอาหารให้พร้อม เพียงแค่คลิกตัวเลือกแล้วใส่จำนวนตามที่ลูกค้าสั่งก็เรียบร้อย
  • เปิดโต๊ะว่างได้อย่างรวดเร็ว : หมดปัญหาการไม่รู้ตำแหน่งและจำนวนโต๊ะที่ว่าง จนต้องมากวาดตามองหาหลังรับลูกค้า เพียงแค่เปิดดูในแอป FoodStory Staff ก็แนะนำโต๊ะอาหารกำลังว่างอยู่ในมุมที่ลูกค้าต้องการได้ทันที
  • คีย์เมนูอาหารตามที่ลูกค้าสั่งได้ : กรณีที่เป็นออเดอร์พิเศษหรือต้องการสั่งเงื่อนไขในอาหารเพิ่มเติมนอกจากที่ร้านกำหนดไว้ตามปกติ พนักงานรับออเดอร์สามารถคีย์ข้อมูลเพิ่มเติมตามที่ลูกค้าสั่งได้ทันที
  • สถานะอาหารขึ้นชัดเจน : ติดตามสถานะของอาหารได้ว่า กำลังทำอยู่ หรือเสิร์ฟแล้วได้ผ่าน FoodStory Staff ได้เช่นกัน
แอปรับออเดอร์ ผ่านมือถือพนักงาน

2) ประหยัดพนักงาน และภาระการทำงานลง

สำหรับร้านที่มีพื้นที่และต้นทุนจำกัด ที่ต้องการลดจำนวนพนักงานให้อยู่ในขอบข่ายที่เหมาะสม FoodStory Staff สามารถช่วยลดความยุ่งยาก และภาระการทำงานให้สามารถรับออเดอร์แต่ละโต๊ะได้อย่างรวดเร็วทันใจ ภายในไม่กี่นาทีก็เรียบร้อย

แอปรับออเดอร์ ผ่านมือถือพนักงาน

3) ลดโอกาสจดออเดอร์ผิดพลาด หรือตกหล่น

บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นว่า พอลูกค้าเยอะ แต่พนักงานน้อย ก็จะเกิดปัญหาจดออเดอร์ผิดพลาด แต่สำหรับร้านที่ใช้เครื่องมือแบบ FoodStory Staff สามารถเทียบความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเลยว่า สามารถลดโอกาสจดออเดอร์ผิดพลาดได้ง่าย ปิดจบทุกปัญหาที่เคยเกิดกับการจดบนกระดาษรูปแบบเดิมได้ 100% เลยทีเดียว

แอปรับออเดอร์ ผ่านมือถือพนักงาน FoodStory Staff

นอกจากนี้ FoodStory Staff ยังเชื่อมต่อการทำงานไปยังระบบ FoodStory POS ได้โดยตรง เพิ่มความสะดวกสบายแก่ทางร้านอาหาร ให้สามารถเก็บข้อมูลรายรับรายและพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า เพื่อนำไปใช้วางแผนการตลาดได้อย่างเหมาะสมแบบ Real Time ทันที ทุกที่ ทุกเวลา หมดปัญหาจดพลาด จดไม่ครบ ลดภาระการทำงานหลายขั้นตอนไปได้เลย สำหรับท่านใดที่สนใจ ‘ ตัวช่วยร้านอาหาร FoodStory POS ’ จัดการง่ายทุกยอดขาย รับชำระเงินสบายหลายช่องทาง บริหารคลังวัตถุดิบและตรวจสอบพนักงานอย่างมืออาชีพ ครอบคลุมรายงานการขายและข้อมูลเชิงลึก รวมทั้งหมดกว่า 500 ฟีเจอร์ พร้อมวางระบบ FoodStory Staff สามารถปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญจาก FoodStory หรือทดลองใช้ระบบฟรี 30 วัน คลิกที่ด้านล่างนี้ได้เลย!

FoodStory ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน

ทดลองใช้ระบบฟรี: https://link.foodstory.co/APR-Content06

โทร: 065-513-7744 กด 1

LINE: https://lin.ee/zAdDsCr

ฮาวทู! ลดต้นทุน หมดปัญหาจดออเดอร์ผิด แค่มี Mobile Order สั่งอาหารผ่าน QR Code

ระบบสั่งอาหาร

ฮาวทู! ลดปัญหาการจดออเดอร์ผิดพลาด และช่วยลดการจ้างพนักงานลงได้ ด้วย ระบบสั่งอาหาร ‘Mobile Order’

ประเด็นยอดฮิตที่ Foodstory ได้รับบ่อยไม่แพ้คำถามอื่นก็คงหนีไม่พ้น ‘จะจ้างพนักงานเท่าไหร่ดี’ เพราะถ้าน้อยไปก็บริการให้ลูกค้าได้ไม่ดีพอ กลัวเกิดปัญหาดราม่าตามมา แต่ถ้าเยอะไปก็ต้องเพิ่มต้นทุนอีกหลายเท่าตัว กลัวจะไม่ไหวนี่สิ บทความนี้เลยขอพามาไขคำตอบเกี่ยวกับการจ้างพนักงานว่า ควรใช้งบเท่าไหร่ จ้างกี่คนดี พร้อม HOW TO !!!! ช่วยลดปัญหาการรับออเดอร์ผิด และลดแรงงานในการรับออเดอร์ แต่ยังคงรักษาความประทับใจของลูกค้าอยู่ ด้วย ระบบสั่งอาหาร ‘Mobile Order’

ร้านอาหารควรมีพนักงานกี่คน

ด้วยความที่ร้านอาหารแต่ละร้านมีขนาดไม่เท่ากัน ทำเลต่างกัน และรองรับลูกค้าได้ไม่เท่ากัน เลยมีปัญหาว่า ไม่รู้ควรจ้างพนักงานให้บริการภายในร้านอาหารกี่คนดี Foodstory ขอแนะนำให้ประเมินจากขนาดของหน้าร้านที่ต้องรองรับลูกค้าดูง่ายๆ ว่า หน้าร้านมีกี่โต๊ะ ปกติแล้วถ้าเป็นร้านอาหารจะจ้างพนักงานในส่วนของการเสิร์ฟ และรับออเดอร์ประมาณ 1 คน ต่อการรับลูกค้า 4 – 6 โต๊ะ เพราะต้องให้บริการทุกขั้นตอนตั้งแต่รับลูกค้าพามานั่งที่โต๊ะ รับออเดอร์ เสิร์ฟอาหาร แก้ปัญหาเฉพาะหน้า และอื่นๆ นอกนั้นก็ตามความเหมาะสม เช่น พนักงานในจุดชำระเงิน 1 คน และประจำห้องครัวประมาณ 2 คน เป็นต้น ปัจจุบันเลยมีทางเลือกอื่นเพิ่มขึ้นมามากกว่าการต้องจ้างพนักงานจนแบกต้นทุนหนัก ด้วยการใช้ ระบบสั่งอาหาร Mobile Order แทน

การจ้างพนักงาน ภายในร้านไม่ควรใช้ต้นทุนเกินเท่าไหร่

บางทีขนาดพื้นที่รองรับกับพนักงานเยอะก็จริง แต่แน่นอนว่า ยิ่งต้องจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น ร้านอาหารก็ยิ่งต้องแบกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยเลยอาจคำนวณจากการใช้ต้นทุนแทนก็ได้ว่า ในส่วนของการจ้างพนักงานภายในร้านไม่ควรใช้ต้นทุนเกินเท่าไหร่ โดยคำนวณได้จาก รายได้ผลประกอบการทั้งหมดภายในร้านสาขานั้นมาหารายจ่ายในส่วนของต้นทุนแรงงานทั้งหมดไม่ควรเกิน 15% กรณีเป็นร้านรูปแบบ Self Service และไม่เกิน 20% กรณีเป็นร้านแบบ Full Service ( ถ้าเป็นร้านใหม่หรือพึ่งขยายสาขา ก็จะไม่แนะนำให้คำนวณตามนี้ เพราะมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการคิดคำนวณต้นทุน )

How to ! ลดปัญหาการรับออเดอร์ผิด และ ช่วยลดแรงงาน ด้วย ‘Mobile Order’ จาก FoodStory POS

หากปัจจุบันคุณกำลังรู้สึกว่า แบกค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าจ้างพนักงานมากเกินไปหรือต้องการลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลง Foodstory มีฮาวทูลดช่วยค่าจ้างพนักงาน ด้วย ระบบสั่งอาหาร ‘Mobile Order’ มาฝากกัน

ระบบสั่งอาหาร

1 ) คัดพนักงานให้เหลือเฉพาะในส่วนจำเป็น

หลังจากคำนวณจำนวนพนักงานตามขนาด และรายได้ของร้านอาหารแล้ว ก่อนอื่น ขอแนะนำให้คัดพนักงานเหลือเฉพาะในส่วนจำเป็น หากส่วนไหนมีมากกว่าที่ต้องการ ก็อาจปรับลดลงให้เหลือจำนวนในระดับที่เหมาะสมกับความจำเป็นในการทำงาน เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยเฉพาะในส่วนของพนักงานรับออเดอร์

ระบบสั่งอาหาร

2 ) ให้ระบบสั่งอาหาร Mobile Order จาก FoodStory POS ช่วยคุณสิ !

ด้วยความที่การจะควบคุมจำนวนพนักงาน ให้ยังคงจัดการภายในร้านได้มีประสิทธิภาพตามเดิมค่อนข้างยาก เว้นแต่จะจัดการลดค่าใช้จ่ายจากการปรับจำนวนพนักงานรับออเดอร์ แล้ววางระบบสั่งอาหาร Mobile Order ที่เชื่อมกับ FoodStory POS แทน ระบบนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเดินไปนั่งที่โต๊ะได้ด้วยตัวเอง และให้พนักงานนำ QR Code ไปให้ลูกค้าที่โต๊ะ และลูกค้าสามารถสแกนเพื่อดูเมนู สั่งอาหาร ได้ด้วยตัวเอง Mobile Order ระบบสแกนสั่งอาหารจาก FoodStory เป็นทั้งตัวช่วยและทำแทนพนักงานรับออเดอร์ได้ สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าจ้างพนักงาน ได้เยอะเลยทีเดียว

ระบบสั่งอาหาร

3 ) ใช้งาน ระบบสั่งอาหาร Mobile Order ระบบสแกนสั่งอาหาร ในสถานการณ์จริง

Mobile Order หรือ ระบบสแกนสั่งอาหาร คือ ฟีเจอร์ที่ให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟนของตัวเอง ด้วยการปริ้น QR Code ประจำโต๊ะให้ลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรสามารถแสกนแล้วเชื่อมต่อระบบสั่งเมนูอาหารได้ทันที นอกจากนี้ยังดูเมนูอาหาร เรียกพนักงาน หรือเช็คบิลเองได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งหรือสั่งซื้ออุปกรณ์มาวางทุกโต๊ะให้เปลืองงบ เพราะเครื่องมือสื่อกลางที่ใช้ก็เป็นของโทรศัพท์ลูกค้าที่พกมาด้วยนั่นเอง แถมลูกค้ายังสามารถแชร์ QR Code ให้เพื่อน เผื่อเพื่อนที่กำลังเดินมาที่ร้าน ได้ดูเมนูและสั่งได้ด้วยตัวเองได้อีกด้วย

4 ) นำข้อมูลที่เชื่อมโยงระหว่าง FoodStory POS มาวิเคราะห์ต่อเพื่อทำการตลาดได้

หลังจากปิดจบในแต่ละออเดอร์แล้ว พนักงานไม่ต้องเสียเวลา มานั่งเก็บข้อมูลยอดจำหน่ายแต่ละเมนู โดยเฉพาะ Foodstory POS ที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างเป็นระบบทั้งระบบ POS และระบบ CRM เก็บครบทุกรายละเอียด ช่วยลดความผิดพลาดของพนักงาน ในการจดออเดอร์ผิด และลดแรงงานพนักงานที่ต้องคอยเดินทุกครั้งเวลาลูกค้าเรียก รวมถึงสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาคุณภาพการทำงานของภายในร้าน และวางแผนกระตุ้นยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ ตามข้อมูลจริงที่มีความน่าเชื่อถือสูง

5 ) เพิ่มระบบ Mobile Staff ตัวช่วยทำงานของพนักงานรับออเดอร์

นอกจากระบบ Mobile Order แล้ว หากต้องการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าบางท่านที่ไม่สะดวกสั่งออเดอร์ด้วยตัวเอง ร้านอาหารสามารถเพิ่มระบบ Mobile Staff เพื่อรองรับการรับออเดอร์ผ่านพนักงานได้ดังเดิม ซึ่งระบบนี้ก็เป็นตัวช่วยทำงานของพนักงานรับออเดอร์ให้ทำงานได้รวดเร็ว ประหยัดต้นทุนและจำนวนคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แพ้ระบบ Mobile Order เลย 

นอกจากนี้ Mobile Staff ยังเชื่อมต่อการทำงานไปยังระบบ FoodStory POS ได้โดยตรง เพิ่มความสะดวกสบายแก่ทางร้านอาหารให้สามารถเก็บข้อมูลรายรับรายและพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า เพื่อนำไปใช้วางแผนการตลาดได้อย่างเหมาะสมกันแบบเรียลไทม์ หมดปัญหาจดพลาด จดไม่ครบ ลดภาระการทำงานหลายขั้นตอนไปได้เลย สำหรับท่านใดที่สนใจ ‘ตัวช่วยร้านอาหาร FoodStory POS’ จัดการง่ายทุกยอดขาย รับชำระเงินสบายหลายช่องทาง บริหารคลังวัตถุดิบและตรวจสอบพนักงานอย่างมืออาชีพ ครอบคลุมรายงานการขายและข้อมูลเชิงลึก รวมทั้งหมดกว่า 500 ฟีเจอร์ พร้อมวางระบบ  Mobile Staff สามารถปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญจาก FoodStory หรือทดลองใช้ระบบฟรี! ได้ที่ …

FoodStory

ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน

ทดลองใช้ระบบฟรี: 

https://link.foodstory.co/APR-Content08

โทร: 065-513-7744 กด 1

LINE: https://lin.ee/zAdDsCr

จะดีกว่ามั้ย? ถ้าสามารถ “เปลี่ยนลูกค้าขาจร เป็นลูกค้าขาประจำ” ได้ด้วย ระบบสมาชิก CRM

ระบบสมาชิกร้านอาหาร

จะดีกว่ามั้ยถ้าสามารถ
'เปลี่ยนลูกค้าขาจร เป็นลูกค้าขาประจำ'
ได้ง่าย ๆ ด้วย ระบบสมาชิก CRM

โดยปกติหากพูดถึงคำว่า “ลูกค้า” ไม่ว่าจะธุรกิจหรือร้านค้าใด มักจะมีการจัดแบ่งประเภทของลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ลูกค้าขาประจำที่เป็นหน้าเก่ามาตลอดไม่เคยหายไปไหน กับ อีกกลุ่มที่เป็นลูกค้าขาจร มาครั้งเดียวแล้วไม่กลับมาอีก ซึ่งหากร้านอาหารของเรามีลูกค้าขาประจำอยู่แล้วก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าสัดส่วนของร้านอาหารเรามีลูกค้าขาจรจำนวนมากกว่า แสดงให้เห็นว่า การที่จะเพิ่มยอดขายได้นั้น คงต้องหันมาโฟกัสกันแล้วว่าจะทำอย่างไรดีให้ลูกค้าที่มาครั้งเดียวหรือที่เรียกว่า ลูกค้าขาจร กลับมาอีกครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 จนในที่สุดเปลี่ยนมาเป็นขาประจำให้ได้ เพียงเท่านี้ยอดขายและกำไรก็จะเพิ่มขึ้นไม่ใช่น้อย โดยเจ้าของธุรกิจส่วนมากมักจะประโคมทำการตลาด ลงสื่อประชาสัมพันธ์ โฆษณาจูงใจลูกค้าใหม่เยอะมาก แต่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการทำการตลาดในส่วนที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งกลยุทธ์เหล่านั้นเป็นเพียงระยะสั้นที่อาจจะก่อให้เกิดลูกค้าขาจรเพิ่มอีกก็เท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วการจะแก้ปัญหานี้ เราจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับการทำ ระบบสมาชิก CRM หรือ การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้านั่นเอง ในส่วนของรายละเอียดว่ามันคืออะไร มีวิธีอะไรบ้าง บทความนี้จะมาให้คำตอบ

ระบบสมาชิก ร้านอาหาร FoodStory CRM

ระบบ CRM คืออะไร จะเปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นขาประจำได้อย่างไร

การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า หรือ CRM (Customer Relationship Management) เป็นวิธีการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าให้คงอยู่กับเราในระยะยาว จนเกิดเป็นความภักดีต่อแบรนด์ ทำให้ไม่เปลี่ยนใจไปใช้ใช้สินค้าหรือบริการจากธุรกิจคู่แข่งขันเรา หากเปรียบให้เข้าใจง่ายๆ คือ การที่เราดูแลลูกค้าเหมือนเป็นเพื่อนรักคนหนึ่ง ที่เราจะดูแลเอาใจใส่ รู้ใจว่าชอบอะไร ส่งมอบแต่สิ่งที่ดี ให้ความช่วยเหลือ ไปจนถึงแก้ไขปัญหาให้นั่นเอง แต่การทำ ระบบสมาชิก CRM โดยไม่มีเครื่องมือเทคโนโลยีมาประกอบคงเป็นการยากลำบากมาก เนื่องจากจำเป็นจะต้องมีการเก็บข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจะมาช่วยให้รู้จักลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อเอาชนะใจกลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า รวมไปถึงการนำข้อมูลที่ได้ไปวางแผนการตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า จนเกิดความพึงพอใจ ซึ่งจะนอกจากจะช่วยในการเพิ่มยอดขาย ยังช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

ระบบสมาชิกร้านอาหาร

เทคนิคดูแลรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า

หัวใจสำคัญของการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ กับ ลูกค้าที่จะทำให้ธุรกิจร้านอาหารเติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่

1.นำเสนอบริการอันน่าประทับใจ

การสร้างความประทับใจที่ดี ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ครองใจลูกค้าได้อย่างดี จนอยากกลับมาซื้อซ้ำ เช่น ความรวดเร็วทันใจ โดยธุรกิจร้านอาหารเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจบริการ ทำให้ความรวดเร็ว หรือใช้ระยะเวลาในการรอน้อยๆ ถูกจัดเป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังเป็นอันดับต้นๆ นั่นเอง หากสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สามารถตอบสนองลูกค้าได้ ก็ถือเป็นแต้มต่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจได้อย่างง่ายดาย

2.ให้คำมั่นสัญญาแล้วต้องทำได้จริง

การรักษาสัญญา แสดงถึงความจริงใจที่เรามีต่อลูกค้าเสมอ เพราะปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารก็มีเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เยอะแยะมากมาย แต่สิ่งที่จะทำให้เราแตกต่างและน่าจดจำมากกว่า คือ การให้คุณค่าลูกค้ามากกว่าเจ้าอื่นๆ ดังจะเห็นได้ก็หลายครั้งที่คนยอมจ่ายเงินแพงๆเพียงเพราะบริการที่ดีกว่า ใส่ใจมากกว่า ทำตาสัญญาที่ให้ไว้ได้จริง เช่น มีการชดเชยจริง เมื่อทางร้านจัดส่งอาหารให้ได้ไม่ทันตามเงื่อนไขเวลาที่กำหนดเอาไว้ เป็นต้น

3.ใส่ใจมากกว่าการขาย

การรับฟังความต้องการของลูกค้า รับฟังความคิดเห็น ทั้งคำติและคำชม นอกจากจะสามารถช่วยให้นำความคิดเห็นเหล่านั้นไปปรับปรุงแก้ไข หรือพัฒนาต่อยอดให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังสามารถแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่เรามีต่อลูกค้าว่าลูกค้ารู้สึกอย่างไร มีปัญหาต้องการให้ช่วยแก้ไขตรงไหน หากเราสามารถนำไปปรับและแก้ไขให้ได้ ก็จะทำให้ลูกค้า เกิดความประทับใจและเชื่อมั่นจนอาจนำไปสู่การเป็นลูกค้าขาประจำได้

ระบบสมาชิก ร้านอาหาร FoodStory CRM

แนะนำ FoodStory CRM ระบบจัดการสมาชิก สำหรับธุรกิจร้านอาหาร

สำหรับเจ้าของร้านอาหารหากอยากบริหารความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า สามารถเริ่มทำ CRM ด้วย FoodStory CRM ระบบจัดการสมาชิก สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลูกค้าใหม่มาใช้บริการ โดยจะเก็บรายละเอียดลูกค้าให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล พฤติกรรมรายบุคคล เช่น ชอบนั่งทานที่ร้านหรือชอบสั่งกลับบ้าน เมนูประเภทไหนที่ชื่นชอบ เป็นต้น เพื่อนำไปใช้วางแผนสร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำอีก รวมไปถึงช่วยในการเพิ่มยอดขายต่อบิล จากข้อมูลที่มี ในการแนะนำโปรโมชันที่อาจจะโดนใจ ทำให้เกิดการสั่งซ้ำ สั่งเพิ่มได้ง่ายขึ้น นอกจากกนี้ยังสามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำไปปรับกลยุทธ์ทางการตลาด สร้างโปรโมชันที่สื่อสารตรงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ ส่งผลต่อดีต่อการเพิ่มยอดขายอีกด้วย

ซึ่ง FoodSory CRM มีฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการเรียนรู้ และรู้จักลูกค้าได้มากขึ้น ด้วยระบบ Membership tier 

Membership Tier คืออะไร? Membership Tier คือฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดลำดับลูกค้าของคุณได้ด้วยระดับสมาชิก อีกทั้งยังสามารถสร้างโปรโมชั่น และส่งกลับไปหาลูกค้ารายบุคคลได้อีกด้วย เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า และสร้างโอกาสให้เกิดการขายได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถเพิ่ม Tag ลูกค้ารายบุคคล เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ทั้งพนักงานและเจ้าของร้านเอง จะรู้ได้ตั้งแต่หน้าแรกที่เห็นชื่อสมาชิก ว่าคนคนนี้จัดอยู่ใน Tag ไหน ชอบทานอะไร ควรให้สิทธิพิเศษอะไรแก่ลูกค้าท่านนั้น จึงทำให้ พนักงานสามารถแจ้งโปรโมชั่นที่เหมาะสมแก่ลูกค้าได้ง่าย

ดังนั้นหากอยากจะทำให้ลูกค้าขาจรที่มาครั้งเดียวแล้วจากไปเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าขาประจำสนิทกันจนจำได้ เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า เพิ่มยอดขาย เอากำไรที่ยั่งยืน จะเห็นได้ว่าการทำ CRM เพื่อบริหารความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เจ้าของร้านอาหารควรศึกษาหาความรู้และนำไปปรับใช้ โดยปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ช่วยในการทุ่นแรง อย่าง FoodStory CRM ระบบจัดการสมาชิก ก็เป็นอะไรที่สะดวกและง่ายต่อการเข้าถึงไม่ใช่น้อย

FoodStory

ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน

ทดลองใช้ระบบฟรี: คลิก

โทร: 065-513-7744 กด 1

LINE: https://lin.ee/zAdDsCr

เคล็ด(ไม่)ลับ เปิดร้าน บุฟเฟ่ต์ บริหารอย่างไรให้ไม่ขาดทุน แถมกำไรพุ่ง!

บริหารร้านบุฟเฟ่ต์ให้ไม่ขาดทุน

เคล็ด(ไม่)ลับ เปิดร้าน บุฟเฟ่ต์
บริหารยังไงให้ไม่ขาดทุน แถมกำไรพุ่ง!

หนึ่งในเทรนด์ร้านอาหารมาแรงไม่แพ้คาเฟ่คงต้องยกให้ ‘ร้านบุฟเฟ่ต์’ อิ่มคุ้มอร่อยครบจ่ายจบลูกค้าฟินจุก ๆ แต่ผู้ประกอบการก็อาจจุกได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้าไม่มีการบริหารร้านบุฟเฟ่ต์อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้ FoodStory POS เลยขอมาแชร์เคล็ด(ไม่)ลับ กับ การ เปิดร้าน บุฟเฟ่ต์ บริหารอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจในความคุ้ม แต่ไม่ขาดทุน แถมกำไรพุ่งได้อีก!

เปิดร้าน บุฟเฟ่ต์ FoodStory POS

1) บริหารร้านบุฟเฟ่ต์ทั้งเมนูและค่าใช้จ่ายแบบรายวัน

จุดเด่นของการบริหารร้านบุฟเฟ่ต์คือ สามารถวางแผนและปรับเปลี่ยนเมนูได้แบบวันต่อวัน (กว่า 35-60% ของรายจ่ายแต่ละวันมาจากต้นทุนอาหาร) หากเมนูไหนไม่โดนใจก็เปลี่ยนได้ หรือหากเมนูไหนอยู่ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตราคาไม่สูง ก็น่าหยิบมาวางให้ลูกค้าได้เลือกทานสลับกับเมนูอื่นได้เหมือนกัน เพราะงั้นเรื่องบริหารการตัดต้นทุนให้ทุกเมนูในแต่ละวัน รวมกันแล้วสามารถสร้างกำไรได้คงไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามีระบบ FoodStory POS หรือทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายเป็นประจำ ป้องกันการรั่วไหลของต้นทุน และสอดคล้องกับจำนวนลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาอุดหนุน

บริหารร้านบุฟเฟ่ต์ให้ไม่ขาดทุน

2) วางมาตรการลดโอกาสสิ้นเปลือง

เมื่อลูกค้าก้าวเข้าร้านบุฟเฟ่ต์ สิ่งที่พวกเขาคิดคือ วันนี้จะเอาชนะร้านบุฟเฟ่ต์ให้ได้หลังจากไม่ได้แวะมานาน แต่บางครั้งก็วางแผนพลาดไปนิดทำให้ตักหรือสั่งอาหารมาเหลือทิ้ง หากบริหารร้านบุฟเฟ่ต์ไม่ดี ขาดมาตรการจัดการลูกค้าที่สั่งอาหารแล้วเหลือทิ้งก็จะสร้างภาระให้ทางร้านมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการสิ้นเปลืองงบและอาหาร (ไม่ใช่แค่เคสเดียวแน่นอน), การกำจัดขยะเหลือทิ้ง ไปจนถึงการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะงั้นเลยอาจวางมาตรการลดโอกาสเกิดการสิ้นเปลืองอาหารเหลือทิ้ง เช่น หากสั่งมาเหลือทิ้งต้องจ่ายค่าปรับ, ให้บริการแบบสั่งแล้วใส่แบบพอดีคำในแต่ละถาดประมาณ 3-5 ชิ้น เป็นต้น

บริหารร้านบุฟเฟ่ต์ให้ไม่ขาดทุน

3) ลดต้นทุน แต่ไม่ลดคุณภาพ

อย่ายึดติดกับคำว่า ลดต้นทุน จนทำให้คุณเผลอตัดคุณภาพตามไปด้วย เพราะลูกค้าจะรู้สึกว่า ขาดทุน (ทั้งที่เหตุผลในการเลือกมาร้านบุฟเฟ่ต์ของลูกค้าคือ คุ้มค่า ให้เลือกหลากหลาย อยากกินต้องได้กิน!) จะสังเกตได้ว่า สมัยนี้มีร้านบุฟเฟ่ต์ให้เลือกเยอะมาก หลากหลายราคาตั้งแต่ไม่ถึงร้อยไปจนถึงหลักพัน แต่ถึงบางร้านจะมีค่าบริการราคาสูงก็ยังมีคนนิยมทานกันจนแน่นร้าน เพราะกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังการซื้อ ตั้งแต่วัยเรียนไปจนถึงวัยทำงานที่มีกำลังซื้อนิยมทานบุฟเฟ่ต์ที่มีคุณภาพมากกว่าราคาถูกอย่างเดียว แต่คุณภาพด้อยกว่าจนรู้สึกทานแล้วไม่คุ้ม

บริหารร้านบุฟเฟ่ต์ให้ไม่ขาดทุน

4) วัตถุดิบราคาแพงให้วางด้านในหรือเติมเฉพาะช่วงเวลาพิเศษ

ด้วยความที่การบริหารร้านบุฟเฟ่ต์จะเป็นลักษณะการผสมผสานระหว่างของราคาแพงบ้าง ถูกบ้างสลับกันไปแล้วมาเฉลี่ยหากำไรกันอีกครั้ง ในส่วนของวัตถุดิบราคาแพงที่เอามากระตุ้นให้ลูกค้าเข้าร้านอาจวางไว้ด้านในสุดให้ลูกค้าไล่เรียงหยิบคละกันไปแทนที่จะมุ่งตรงมาหาของแพงเพียงอย่างเดียว หรือหากมีจำนวนจำกัดจริงๆ อาจเติมเฉพาะช่วงเวลาพิเศษมีการเติมสต็อกลงพื้นที่ให้ตักเป็นรอบแทนการวางติดกับถาดให้เติมได้ตลอดก็จะลดต้นทุนวัตถุดิบลงได้อีกเล็กน้อย

บริหารร้านบุฟเฟ่ต์ให้ไม่ขาดทุน

5) ให้บริการน้ำเปล่าฟรีและหมั่นให้บริการเติมแก้วตลอด

สำหรับลูกค้าเวลาทานอาหารปริมาณมากจะต้องดื่มน้ำลดอาการฝืดคอ ซึ่งเป็นผลดีกับการบริหารร้านบุฟเฟ่ต์ เพราะระหว่างที่จิบน้ำลูกค้าจะรู้สึกอิ่มไวมากขึ้น อีกหนึ่งเคล็ด(ไม่)ลับที่ FoodStory อยากแนะนำคือ ให้บริการน้ำเปล่าฟรีแล้วหมั่นเติมน้ำลงแก้วลูกค้าตลอด ก็จะช่วยให้ลูกค้าทานในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายไม่อัดหรือแน่นจนเกินไป และค่าใช้จ่ายน้ำเปล่าสะอาดที่ติดตั้งเครื่องกรองน้ำภายในร้านอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มต้นทุนเยอะแต่อย่างใด

เปิดร้าน บุฟเฟ่ต์ FoodStory POS

6) เก็บข้อมูลการบริโภคของลูกค้าแล้วมาปรับแผนตลอด

การบริหารบุฟเฟ่ต์อาจคาดเดาะไม่ได้ว่า แต่ละวันลูกค้าจะทานอะไร อย่างไร จำนวนเท่าไหร่บ้าง แต่การเก็บข้อมูลสมาชิก การบริโภค สต็อกวัตถุดิบภายในร้าน และอื่นๆ ทั้งหมดจะทำให้มีคลังข้อมูลขนาดใหญ่เพียงพอกับการนำไปประมวลผลวิเคราะห์ก่อนจะนำมาปรับแผนการคัดสรรวัตถุดิบ พนักงาน และการให้บริการแบบเรียลไทม์ได้ทุกวัน เหมาะกับการพัฒนาการให้บริการภายในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์สุดๆ

บริหารร้านบุฟเฟ่ต์ให้ไม่ขาดทุน

7) ให้บริการอย่างรวดเร็วทันใจ

ไม่ว่าจะร้านอาหารทั่วไป คาเฟ่ หรือแม้แต่การบริหารร้านบุฟเฟ่ต์ก็ตาม การให้บริการอย่างรวดเร็วทุกขั้นตอนตั้งแต่ลูกค้าเดินเข้าร้าน รับออเดอร์ เสิร์ฟ ไปจนถึงชำระเงิน จะช่วยลดเวลา และเพิ่มโอกาสสร้างรายได้จากที่นั่งว่างเหล่านั้น แทบทุกร้านเลยกำหนดให้ลูกค้าสามารถเลือกทานอาหารตามแพ็กเกจได้ในระยะเวลาจำกัด (รวมถึงอบรมให้พนักงานต้องทำงานแบบมีประสิทธิภาพ ด้วยความรอบคอบ และรวดเร็วเท่าที่จะทำได้)

นอกจากเคล็ด(ไม่)ลับเกี่ยวกับการ เปิดร้าน บุฟเฟ่ต์ แล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ ‘ตัวช่วยร้านอาหาร FoodStory POS’ จัดการง่ายทุกยอดขาย รับชำระเงินสบายหลายช่องทาง บริหารคลังวัตถุดิบและตรวจสอบพนักงานอย่างมืออาชีพ ครอบคลุมรายงานการขายและข้อมูลเชิงลึก รวมทั้งหมดกว่า 500 ฟีเจอร์ เพื่อยกระดับการให้บริการร้านอาหารโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีการปรับระบบให้รองรับการบริหารร้านบุฟเฟ่ต์มากขึ้น เช่น 

  • มีระบบ Inventory ที่ช่วยจัดการสต็อกได้อย่างละเอียด สามารถเปิดใบ PR PO GR และตัดสต้อกได้อย่างแม่นยำ
  • ระบบ POS จัดการร้านค้า ให้บริการสะดวกด้วย Ipad สูงสุด 5 เครื่อง
  • ลูกค้าสามารถใช้ Mobile Order สแกนสั่งอาหารเองได้เพื่อประหยัดเวลาและรวดเร็ว
  • พนักงานสามารถใช้ Mobile Staff ( Android ) รับออเดอร์เอง เปิดโต๊ะเอง สั่งอาหารเองได้
  • ระบบจัดรูปแบบโต๊ะภายในร้านตาม Layout จริง เพื่อลดข้อผิดพลาด
  • ระบบจัดการเปิด-ปิด เมนูได้แบบเรียลไทม์
  • ระบบจัดการคิว และระบบจับเวลาเข้ารับบริการ
  • ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มและย่อได้อย่างง่ายดาย
  • รองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง ทั้งเงินสด บัตรเครดิต และการสแกน QR Code จากสมาร์ทโฟน
  • ระบบรายงานยอดขายและผลเชิงลึก สามารถวิเคราะห์ต่อยอดธุรกิจ สร้างยอดขายและกำไรมากขึ้น

เปิดร้าน บุฟเฟ่ต์ ในยุคปัจจุบัน อาจจะพบเจอปัญหาในเรื่องของต้นทุน ค่าใช้จ่าย ที่เป็นยอดค่อนข้างสูง FoodStory POS สามารถช่วยลดต้นทุน ลดความผิดพลาด ในการรับออเดอร์ได้ด้วยระบบสแกนสั่งอาหาร Mobile Order ที่จะช่วยให้พนักงานเหนื่อยน้อยลง และประหยัดเวลาในการรับลูกค้าอีกด้วย สนใจทดลองใช้ระบบฟรีหรือปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญได้ที่ …

FoodStory POS ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน

ทดลองใช้ระบบฟรี คลิก!

โทร: 065-513-7744 กด 1

LINE: https://lin.ee/zAdDsCr

เทคนิค เพิ่มยอดขาย ให้เติบโตหลายเท่าตัวด้วยระบบ POS จัดการร้านอาหาร!

เพิ่มยอดขายร้านอาหาร

เพิ่มยอดขาย ให้เติบโตหลายเท่าตัว
ด้วยระบบการจัดการร้านอาหารที่พร้อม Support!

‘ ร้านอาหารขายดีแค่มีอาหารอร่อยหรือคนเก่งมาช่วยบริหารอย่างเดียวก็รุ่งได้ ’ จริงหรอ? ก่อนที่ธุรกิจร้านอาหารชื่อดังลูกค้าปัจจุบันของ FoodStory จะเข้ามาทดลองใช้ระบบก็เคยตั้งแนวคิดแบบนี้เช่นกัน แต่เหตุผลอะไรที่ทำให้เขาเปิดใจลองปรับเปลี่ยนมุมมอง พร้อมหยิบระบบการจัดการร้านอาหาร FoodStory POS ไปใช้จริงจนสามารถกระตุ้นเพิ่มยอดขายมากกว่าก่อนวางระบบหลายเท่าตัว ไม่ควรพลาดบทความนี้ พร้อมบอก 4 วิธีการจัดการร้านอาหารด้วยตัวเองเพื่อ เพิ่มยอดขาย ให้สำเร็จกัน

4 การจัดการร้านอาหารด้วยตัวเองให้สำเร็จ

ปัญหาของการจัดการร้านอาหารด้วยตัวเองให้สำเร็จ บางครั้งไม่จำเป็นเลยว่า ร้านของคุณจะต้องอร่อยที่สุดในย่าน หรือต้องหาคนเก่งบริหารจัดการร้านอาหารแบบขั้นเทพ เพียงแค่จัดการตาม 4 ข้อนี้ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

1) เข้าใจตัวคุณและลูกค้า

ตามสถิติจากสสส. พบว่า คนกรุงเทพฯ ที่มีอายุระหว่าง 13 – 49 ปี ทานอาหารนอกบ้านเฉลี่ยถึง 21 ครั้งต่อเดือน ซึ่งสามารถแบ่งแยกย่อยกลุ่มลูกค้าได้ตามอายุและพฤติกรรมการบริโภคได้อีก หากต้องการจัดการร้านอาหารให้สำเร็จก็จำเป็นจะต้องเข้าใจลูกค้าและตัวคุณเองว่า มีความสามารถพอจะรองรับความต้องการของลูกค้าได้มากน้อยขนาดไหน ดูจากงบประมาณ, ขนาดพื้นที่, ความสามารถและจำนวนคนภายในทีม ฯลฯ

2) คำนวณรายรับ – รายจ่ายให้เห็นภาพรวม

ปกติการจัดการร้านอาหารให้รอดสู่การไปถึงจุดที่เรียกว่า รุ่ง จะขึ้นอยู่กับการคำนวณรายรับ-รายจ่าย ให้เห็นภาพรวมและสามารถนำไปบริหารจัดการต่อได้ โดยอาจมีรายจ่ายหลักที่ต้องจัดทุนสำรองตลอด ดังนี้

ค่าแรงพนักงานภายในร้าน : การจัดการร้านอาหารส่วนใหญ่จะต้องลงทุนไปกับพนักงาน เพราะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในธุรกิจร้านอาหาร ไหนจะรายได้หลัก โอที เงินพิเศษ และสวัสดิการอื่นๆ ถ้าไม่จัดการอย่างเหมาะสมก็อาจขาดทุนได้

ค่าวัตถุดิบ : ไม่ใช่แค่หน้าที่ของพนักงาน แต่ระดับผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการร้านอาหารก็จำเป็นต้องทราบสูตรอาหารทุกเมนูภายในร้าน เพื่อนำไปคำนวณและวางแผนวัตถุดิบให้คุ้มสุดตามเกรดที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่สุด นอกจากนี้ หากมีช่องทางอื่น เช่น แบบ Delivery ก็จำเป็นจะต้องคำนวณในส่วนของบรรจุภัณฑ์ด้วย เป็นต้น

ค่าเช่าร้านและระบบสาธารณูปโภค : สำหรับการจัดการร้านอาหารที่ดำเนินธุรกิจผ่านทางหน้าร้านเป็นหลัก ค่าเช่าร้านและระบบสาธารณูปโภค ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนก็ต้องกำหนดขอบเขตและวางแผนทุกเดือนเช่นกัน

ค่าการตลาด : ไม่ควรคิดว่า การลงทุนไปกับหน้าร้านจะเน้นแค่ลูกค้าละแวกใกล้เคียง ไม่ต้องเน้นทำการตลาด เพราะการจัดการร้านอาหารให้คนรู้จักผ่านทางออนไลน์ก็ถือว่า จำเป็น เพราะเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าที่ไม่ใช่ผู้อาศัยในพื้นที่ละแวกนั้นได้มีโอกาสแวะเวียนเข้ามาอุดหนุนมากขึ้น รวมถึงการก

ค่าใช้จ่ายอื่น : เพราะการจัดการร้านอาหารบางครั้งก็อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้เสมอ เช่น ของหายจากการถูกขโมย, ของเสียหรือหมดอายุ, ของไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น เลยอาจเกิดโอกาสเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้เหมือนกันระตุ้นให้เกิดยอดขายผ่านทางออนไลน์ด้วย

3) ฝึกลงมือทำและสอนงานให้ได้ทุกตำแหน่ง

หากเปรียบตำแหน่งผู้ประกอบการหรือผู้บริหารเป็นหัว พนักงานก็เป็นแขนทั้งสองข้างที่ไม่สามารถขาดหรือหายไปได้ การจัดการร้านอาหารอย่างมีคุณภาพ แม้ไม่จำเป็นต้องทำเองทุกอย่าง แต่ควรเข้าใจทุกจุด เพราะเป็นเรื่องปกติที่วันหนึ่งลูกน้องคนเก่งอาจออกจากทีมไปเดินทางตามความฝันเลยต้องสอนงานให้ได้ทุกตำแหน่ง สิ่งที่ดีที่สุดที่ Foodstory อยากแนะนำคือ การฝึกลงมือทำเรียนรู้และเข้าใจในทุกตำแหน่ง เพราะมีข้อดีอีกมหาศาลรอคุณอยู่ ทั้งในเรื่องของการเลือกคนเข้ารับหน้าที่ในแต่ละตำแหน่งได้อย่างเหมาะสม, บริหารจัดการควบคุมต้นทุนได้ทุกจุด เป็นต้น

4) การเก็บเอกสารให้ครบถ้วน

หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยของการจัดการร้านอาหารให้เป็นระบบคือ การเก็บเอกสาร เพราะแค่ทำหน้าที่แต่ละตำแหน่งก็ทำแทบจะไม่ทัน แต่รู้หรือไม่ว่า การเก็บข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ ไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องการทำบัญชีและจัดการภาษี แต่ยังไปพัฒนาแผนต่อยอดได้อีกด้วย เช่น จัดทำโปรโมชั่นตามโอกาสพิเศษได้บ่อย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกระทบผลกำไร, มีงบเพียงพอต่อการขยายสาขาเพิ่มรายได้หลายเท่า เป็นต้น

FoodStory POS เพิ่มยอดขาย

เคล็ดลับการจัดการร้านอาหารให้ยอดขายพุ่งหลายเท่าอยู่ที่ระบบ POS!

มากกว่าการจัดการร้านอาหารด้วยตัวเองแล้ว ต้องไม่ลืมว่า ในแต่ละวันเราจะต้องพบเจอและจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลจากบัญชีรายรับรายจ่าย, ข้อมูลสมาชิกของลูกค้า, ข้อมูลสต็อกวัตถุดิบ เป็นต้น ทำให้บางครั้งอาจเกินขีดจำกัดความสามารถของคนเรา และไม่สามารถหยิบไปต่อยอด เพิ่มยอดขาย ในอนาคตได้ ระบบ POS เลยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร้านอาหารที่มีหน้าร้านมาก Foodstory POS กว่า 500 ฟีเจอร์ เลยเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับร้านอาหารทุกรูปแบบ เช่น

  • จัดการบริหารร้านได้ง่ายขึ้น
  • สร้างเมนูได้หลากหลาย สูงสุด 500 รายการ
  • รองรับการจำหน่ายอาหารบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และ ออฟไลน์ รวมถึงสามารถเชื่อมต่อ Lineman Delivery โดยตรง
  • มีระบบ Sale Channel ช่วยกำหนดราคาขาย การคิดค่า GP และยังสามารถบันทึกรายงานการขาย ช่องทางอื่นๆเพิ่มเติมได้
  • มีระบบ Inventory ที่ช่วยจัดการสต็อกได้อย่างละเอียด สามารถเปิดใบ PR PO GR และตัดสต็อกได้อย่างแม่นยำ
  • มีระบบจัดการโปรโมชั่น เพิ่มยอดขาย สามารถดู Sale Report เพื่อประเมินรายงานยอดขายและนำไปต่อยอดวิเคราะห์โปรโมชั่นได้ครอบคลุม
  • ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มและย่อได้ไม่มีพลาด

การจัดการร้านอาหารที่ดีให้มียอดขายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว บางครั้งแค่อาศัยรสชาติของอาหารหรือคนเก่งอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ต้องมีตัวช่วยพร้อมซัพพอร์ตให้การจัดการสามารถทำได้เป็นระบบ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เหมือนนักรบที่ลงสนามจากการใช้มือเปล่ามาเป็นอาวุธครบมือ ย่อมมีโอกาสชนะและ เพิ่มยอดขาย ได้มากกว่า สนใจสามารถปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญจาก FoodStory POS หรือทดลองใช้ระบบฟรี! ได้ที่ …

FoodStory

ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน

✅ทดลองใช้ระบบฟรี: คลิกที่นี่

โทร: 065-513-7744

LINE: https://lin.ee/zAdDsCr