แผนธุรกิจร้านอาหาร ถือเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนทั้งมือใหม่และมือเก่าต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเปิดร้านอย่างจริงจัง เพราะขนาดร้านอาหารใหญ่ ๆ ที่เราเห็นกันในท้องตลาดทั่วไปนั้นก็ล้วนแล้วแต่ตั้งต้นจากการวิเคราะห์แผนธุรกิจและพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นถ้าใครที่อยากให้ร้านอาหารของเราเติบโตไปอย่างที่ต้องการ สามารถบริหารได้อย่างราบรื่น และลดปัจจัยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เปรียบเสมือนคู่มือที่เอาไว้ชนะใจลูกค้าและเอาตัวรอดจากคู่แข่งในตลาดได้ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแผนธุรกิจร้านอาหารเป็นคัมภีร์ประสบความสำเร็จของทุกธุรกิจร้านอาหารเลยก็ว่าได้
ตัวอย่าง ‘แผนธุรกิจร้านอาหาร’
ต้องเตรียมอะไรบ้างถ้าไม่อยากเจ๊ง!?
สำหรับใครที่กำลังวางแผนเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง แต่ไม่รู้จะเริ่มทำแผนธุรกิจร้านอาหารอย่างไรดี วันนี้เรามีตัวอย่างการวางแผนมาฝากกัน! รับรองเลยว่าก้าวแรกที่ดีและมั่นคงนั้นจะนำไปสู่โอกาสในการประสบความสำเร็จที่มากขึ้นอย่างแน่นอน และจะยิ่งดีขึ้นถ้าหากระหว่างทางเรามีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ของร้านเราอย่างรอบด้านผ่านระบบการจัดการหลังบ้านที่ดีและมีประสิทธิภาพ
1 | วิเคราะห์ SWOT (จุดแข็ง – จุดอ่อน – โอกาส – อุปสรรค)
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนจะเริ่มวางแผนธุรกิจร้านอาหาร คือการวิเคราะห์ SWOT หรือที่เรียกว่า SWOT Analysis ซึ่งเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบัน และสถานการณ์ภายนอก ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารของเรา อธิบายให้เห็นภาพคร่าว ๆ ดังนี้
- S (Strength) – การวิเคราะห์หา “จุดแข็ง” ของร้านอาหารของเราว่ามีความโดดเด่นอะไร มีสิ่งไหนที่เหนือกว่า หรือแตกต่างจากร้านคู่แข่ง เช่น ทำเล รสชาติ คุณภาพวัตถุดิบ แหล่งวัตถุดิบ ความเข้าใจในพฤติกรรมและรสนิยมของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เงินทุน ทำเลของร้าน หรือการที่เรามีกำลังการผลิตที่สูงกว่า เป็นต้น เมื่อเรารับรู้จุดแข็งของตัวเรา เราจะสามารถใช้ฐานข้อมูลนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาแผนธุรกิจต่อไปได้
- W (Weakness) – การวิเคราะห์หา “จุดอ่อน” ของธุรกิจเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ไม่เอื้อต่อการทำงาน เช่น ร้านอาหารเปิดใหม่ของเรายังมีงบประมาณในการจ้างพนักงานอย่างจำกัด ดังนั้นจึงต้องวางแผนจัดการทรัพยากรคนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งงานเสิร์ฟ งานทำความสะอาด และงานดูแลระบบร้าน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องมีความสมดุล เพื่อลดปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมาในอนาคต
- O (Opportunity) – การวิเคราะห์หา “โอกาส” หรือปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลบวกต่อธุรกิจ เช่น ในปัจจุบันสื่ออนไลน์อยู่ในมือผู้บริโภคมากขึ้น และแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวัน การพัฒนาสูตรของร้านให้อร่อยถูกปาก การเลือกใช้วัตถุดิบมีคุณภาพ และการตกแต่งหน้าอาหารให้สวยงาม แพคเกจจิ้งที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร สิ่งเหล่านี้อาจช่วยดึงดูดให้คนถ่ายรูปรีวิว ทำคอนเทนต์แนะนำร้านอาหาร จนเกิดการบอกต่อร้านของเราบนโลกออนไลน์ ก็จะช่วยให้ขยายฐานลูกค้าได้อีกแรง
- T (Threats) – การวิเคราะห์หา “อุปสรรค” หรือปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลลบต่อธุรกิจ เช่น สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่สิ่งผลต่อการตัดสินใจใช้จ่าย หรือเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งการดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ทำให้คนเลี่ยงอาหารประเภททอดด้วยน้ำมันฉ่ำ ๆ หรือน้ำมันเก่า เพราะทำให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกาย และยังมีสารก่อมะเร็งแอบแฝง ดังนั้นหากคุณเปิดร้านอาหารประเภทของทอด หรือมีเมนูทอด อาจเลือกใช้น้ำมันที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ หรือเปลี่ยนน้ำมันใหม่ทุกครั้งเมื่อต้องประกอบเมนูทอด เพื่อเพิ่มความสบายใจให้แก่ผู้บริโภค เป็นต้น
2 | หาจุดคุ้มทุนให้เจอ
การทำธุรกิจร้านอาหารในช่วงแรก ๆ หากคาดหวังให้ได้กำไรก้อนโตอาจยังเป็นไปได้ยาก แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญพอ ๆ กับกำไรคือ “จุดคุ้มทุน” (Break Even Point) ซึ่งเป็นระดับยอดขายที่เท่ากับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของร้าน การวางแผนธุรกิจร้านอาหารแบบหาจุดคุ้มทุนจะต้องคำนวณว่าใน 1 เดือนจะต้องทำยอดขายได้เท่าไหร่ เช่น ขายข้าวได้กี่จาน ขายน้ำได้กี่แก้ว เป็นต้น โดยจะต้องคำนึงถึงต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรร่วมด้วย โดยมีสูตรง่าย ๆ คือ จุดคุ้มทุน (หน่วย) = ต้นทุนคงที่ / (ราคาขายต่อหน่วย – ต้นทุนแปรผันต่อหน่วย) เพราะถ้าเราไม่คำนวนจุดคุ้มทนุให้แม่นยำก็อาจจะเสียงเกิดสิ่งที่เรียกว่า ขายดีจนเจ๊ง เพราะคุณอาจจะโดนยอดขายรวมหลอกตาได้นั่นเอง
3 | วางแผนระยะเวลาคืนทุน
การทำแผนธุรกิจร้านอาหาร สิ่งที่ห้ามลืมคือการวางแผนระยะเวลาคืนทุน เช่น 1 ปี, 3 ปี หรือ 5 ปี จะช่วยให้เราวางแผนการขายได้ชัดเจนขึ้น เช่น จะต้องขายให้ได้จำนวนมากขึ้น, จะต้องปรับลดต้นทุนวัตถุดิบในบางส่วน, จะต้องลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน, จะต้องลดเงินลงทุนเพิ่มเติม หรือการนำทั้งหมดมาปรับใช้ร่วมกันในสัดส่วนที่ทำได้อย่างเหมาะสม โดยมีสูตรคำนวนคือ เงินลงทุน ÷ ระยะเวลาการคืนทุนที่คาดหวัง = กำไรสำหรับการคืนทุน/เดือน
4 | แผนการผลิต / สั่งซื้อวัตถุดิบ
แผนธุรกิจร้านอาหาร ก็ต้องรวมถึงแผนการผลิต / สั่งซื้อวัตถุดิบที่ดี เพราะจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรักษาคุณภาพวัตถุดิบได้ยืนยาวกว่า โดยเฉพาะร้านอาหารที่ต้องสั่งวัตถุดิบสดตามฤดูกาล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวางแผนการซื้ออย่างครอบคลุม เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและราคาดีที่สุด ซึ่งระบบ POS รุ่นใหม่ ๆ ก็มักจะมีฟีเจอร์ Inventory Management ที่ช่วยจัดการจำนวนวัตถุดิบคงเหลือในแต่ละวันและแจ้งเตือนเมื่อสต๊อกใกล้หมด รวมถึงฟีเจอร์ในการผูกสูตรรายเมนูให้เราสามารถตัดสต๊อกแม่นยำขึ้น และสามารถคำนวนหาต้นทุนวัตถุดิบต่อหน่วยได้ โดยมีสูตรคำนวนคือ ต้นทุนวัตถุดิบ = ปริมาณวัตถุดิบที่ใช้จริง x (ราคาที่ซื้อ/ปริมาณที่ซื้อ) และนำมาคำนวนวัตถุดิบต่อหน่วยที่ขายคือ ต้นทุนวัตถุดิบต่อชิ้น = ต้นทุนวัตถุดิบ/จำนวนชิ้นที่ได้
5 | วางแผนการตลาด
สำหรับร้านอาหารเปิดใหม่ ควรมีแผนการตลาดอยู่ในแผนธุรกิจร้านอาหาร เพราะจะช่วยบอกทิศทางการทำการตลาดตลอดทั้งปี ตั้งแต่การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ การออกสินค้าเมนูใหม่ ๆ การวางแผนโปรโมทสินค้า การส่งเสริมการขาย การวางแผนสื่อ และงบประมาณส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด เพื่อให้คุ้มค่ากับงบประมาณมากที่สุด โดยอาจจะใช้สูตรการคำนวนที่เรียกว่า Return on Investment หรือ ROI คือ ROI = (กำไรจากแคมเปญการตลาด ÷ ต้นทุนที่ใช้ทำการตลาด) x 100% หากผลลัพธ์ของ ROI มากกว่า 0 = การลงทุนมีกำไร , ROI เท่ากับ 0 = เท่าทุน และถ้า ROI น้อยกว่า 0 = ขาดทุน
6 | วิเคราะห์คู่แข่ง
การวิเคราะห์คู่แข่ง (Competitors Analysis) เป็นส่วนสำคัญของ แผนธุรกิจร้านอาหาร เพื่อเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเอาชนะคู่แข่งในตลาดได้สำเร็จ ซึ่งคู่แข่งในที่นี้อาจมีทั้ง คู่แข่งทางตรงและคู่แข่งทางอ้อม ทำได้โดยการสำรวจกลยุทธ์ด้านการตลาดที่คู่แข่งใช้ เช่น การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์, วิธีบริหารจัดการ, การแก้ไขปัญหา, นโยบายด้านการเงิน หรือนวัตกรรมที่ใช้ เป็นต้น จากนั้นจึงนำข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบกับธุรกิจของเราว่ามีจุดไหนอ่อนกว่า ก็พยายามพัฒนาให้เหนือกว่าคู่แข่งต่อไป ซึ่งถ้าหากทำให้เห็นภาพมากขึ้นก็อาจจะเริ่มต้นจากการพล็อตกราฟ Brand Positioning Chart ว่าในปัจจุบันเราอยู่จุดในไหนในตลาด และมีใครบ้างที่อยู่ในตลาดกับเรา รวมถึงจุดที่เราอยากจะก้าวไปให้ถึงในอนาคต ควบคู่ไปกับการหา Brand Identity หรือจุดเด่นของตัวเองเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้อย่างตรงจุด
ร้านอาหารที่ดี ต้องเริ่มต้นจากการมีระบบจัดการที่ดี
สำหรับใครที่กำลังจะเปิดร้านอาหาร แล้วมองหาตัวช่วยในการจัดการและดูแลระบบร้านให้ทำงานได้อย่างมืออาชีพ แนะนำให้รู้จักกับ FoodStory POS ระบบเดียวที่ตอบโจทย์ทุกประเภทร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นร้านประเภท Buffet , Stand Alone หรือ Dine in เราก็มีระบบจัดการร้านรองรับแบบแยกประเภทที่ช่วยให้คุณบริหารร้านได้ง่ายขึ้น จัดการสต๊อกได้อย่างมีระบบมากขึ้น ช่วยลดแรงงานพนักงาน ดูรายงานผลยอดขายได้แบบเรียลไทม์ และดูการรายงานผลร้านอาหารในส่วนอื่น ๆ ได้อย่างละเอียด เพิ่มแต้มต่อให้คุณพัฒนา แผนธุรกิจร้านอาหาร ได้ตามเป้าหมายของแผนธุรกิจร้านอาหารมากยิ่งขึ้น
หากสนใจทดลองใช้งานระบบ POS ฟรี 30 วัน
สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทันทีที่ลิ้งก์ด้านล่าง
>> ทดลองใช้ฟรี! <<
FoodStory POS ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน
ทดลองใช้ระบบฟรี: คลิกที่นี่เลย!
โทร: 065-513-7744 กด 1