fbpx Skip to content

9 ไอเดีย ‘ทำการตลาดร้านอาหาร’ ผ่านช่องทางออนไลน์ให้ได้ผลดีที่สุด!

เมื่อโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างแท้จริง เพราะงั้นร้านอาหารร้านไหนที่ยังมีเพียงหน้าร้านออฟไลน์ บอกเลยว่า ควรรีบปรับตัวด่วน! เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้เป็นวงกว้างและสร้างความสะดวกสบาย ตอบโจทย์การบริการธุรกิจร้านอาหารของคุณได้ขั้นสุด แต่ด้วยความที่มีการแข่งขันบนแพลตฟอร์มออนไลน์จำนวนมาก Foodstory จึงขอแนะนำ 9 ไอเดีย ทำการตลาดร้านอาหาร ผ่านช่องทางออนไลน์ให้ได้ผลดีที่สุดในยุคนี้


9 ไอเดีย ‘ทำการตลาดร้านอาหาร’

ผ่านช่องทางออนไลน์ให้ได้ผลดีที่สุด!

 

ทำการตลาดร้านอาหาร FoodStory POS

1 | เอกลักษณ์จุดเด่นต้องชัดเจน

ด้วยความที่ทุกวันนี้ธุรกิจร้านอาหารมีคู่มีการแข่งขันที่สูงมาก ยิ่งเดี๋ยวนี้มีร้านอาหารที่รองรับการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้นมากมาย จากคู่แข่งที่อยู่เฉพาะในบริเวณพื้นที่ไม่ไกลจากที่ตั้งร้านของคุณ จะกลายเป็นว่าคุณอาจต้องขยายช่องทางการให้บริการร้านอาหาร และมีโอกาสเจอคู่แข่งมากขึ้นตามมาด้วย การวางเอกลักษณ์ของร้านให้ชัดเลยเป็นเรื่องสำคัญ เริ่มตั้งแต่

  • วางพันธกิจ หรือ เรื่องราวที่สะท้อนวัตถุประสงค์ของร้านอาหารคุณ
  • สร้าง Brand Character หรือ การมีตัวตนบนโซเชียลมีเดีย
  • างจุดยืนของร้านอาหาร จุดไหนในตลาดที่คุณอยู่ ณ ปัจจุบัน โดยพิจารณาจากราคา เมนู โปรโมชั่น และสถานที่
  • กำหนดภาพลักษณ์  สี หรือ สิ่งที่สื่อถึงแบรนด์หรือร้านอาหารของคุณให้ไปในทางเดียวกัน เช่น โลโก้ การตกแต่ง ฯลฯ

2 |  มีพื้นที่สื่อที่หลากหลาย

เพราะแต่ละคนย่อมมีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ตัวเองใช้งานบ่อย ๆ ไม่เหมือนกัน FoodStory เลยอยากแนะนำให้ร้านอาหารทุกร้านมีบัญชี Social Media ประจำร้านในเพื่อ โปรโมทร้านอาหาร ผ่านทางออนไลน์ได้หลากหลายแพลตฟอร์มที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีครบทุกแพลตฟอร์มในทีเดียวก็ได้ เพราะการทำคอนเทนท์ให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์มนั้นก็ใช้เวลาและแรงงานไม่น้อย รวมถึงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ควรจะลงคอนเท้นต์เป็นประจำสม่ำเสมอด้วย

  • Facebook เหมาะสำหรับการสร้างการรับรู้ให้กับร้านอาหารในภาพรวม และสามารถประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นต่าง ๆ หรือเมนูใหม่ ๆ ของร้านอาหารได้
  • Instagram เหมาะสำหรับร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่เน้นสไตล์การตกแต่งร้านและอาหารที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ใช้งานเป็นเหมือน Photo Gallery มากกว่าการสร้างยอดขายโดยตรง
  • Twitter เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์คาแรคเตอร์ที่แตกต่างผ่านตัวอักษรที่จำกัด เน้นการสร้าง Viral และเกาะกระแสจาก #Hashtag ต่าง ๆ แต่ข้อควรระวังคือถ้ามีอะไรผิดพลาดทัวร์อาจจะลงได้แบบไม่ทันตั้งตัว
  • Tiktok เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์คาแรคเตอร์ผ่านวิดีโอสั้น ๆ เน้นการสร้างกระแส Viral ได้เช่นกัน แต่ก็แลกกับเวลาและแรงในการทำคอนเทนต์ที่มากขึ้น
  • LINE Official Account เหมาะสำหรับการสื่อสารโต้ตอบกับลูกค้าโดยตรง โดยสามารถ Broadcast ข้อความโปรโมชันไปยังผู้ติดตามได้ รวมถึงตั้งค่าข้อความต้อนรับลูกค้าใหม่ ถือเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้เลย

ดังนั้นค่อย ๆ เริ่มจากแพลตฟอร์มที่ตัวเองถนัดก่อนแล้วค่อย ๆ ขยับขยากันต่อไปจะดีที่สุด และแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังเป็นอีกช่องทางในการรับฟังความเห็นจากผู้บริโภคตัวจริงในตลาดไปปรับใช้กันต่อไปด้วย เพราะไม่แน่ว่านที่เห็นคอนเทนต์เราในโลกออนไลน์ อาจจะกลับมาเป็นลูกค้าจริง ๆ ของร้านได้ในอนาคตนั่นเอง

3 | คอนเทนต์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

จากที่เคยคิดกันว่า เปิดร้านอาหารแค่ทำอาหารให้อร่อยก็พอแล้วนั้น คงจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดอีกต่อไปในยุคนี้ เพราะลูกค้าที่ ไม่เคยลองทานและอยากลองสั่งผ่านทางออนไลน์ มักจะเลือกจากข้อมูลและสื่อที่คุณนำมาเสนอให้กับลูกค้า แน่นอนว่าหากจะชวนให้ลูกค้ามาทดลองทานร้านอาหารของคุณ พวกภาพหรือวิดีโอที่ใช้เป็นสื่อในการทำคอนเทนต์ โปรโมทร้านอาหาร จะต้องดึงดูดตาและดึงดูดใจใหลูกค้าหยุดมองได้ในครั้งแรก ไม่เช่นนั้นตามพฤติกรรมการใช้สื่อในปัจจุบันลูกค้าจะเลื่อนผ่านคอนเทนต์ที่ไม่น่าดึงดูดใน 3 วินาทีแรกไปเลยทันที ดังนั้นข้อดี ข้อเด่น จุดแข็งของทางร้านมีอะไรก็ต้องงัดเอาออกมาโชว์ให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลย เช่น กุ้งตัวโต ๆ เมนูบุฟเฟ่หลากหลายเต็มโต๊ะ ราคาที่เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า หรือสตอรี่อื่น ๆ ของทางร้านที่คิดว่าแน่ แนะนำว่าให้เอาออกมาโชว์ใหดหมด ไม่ต้องกั๊ก!

4 | ทำการตลาดร้านอาหาร ผ่านข้อมูลเชิงลึก

เพราะการตลาดที่ดีและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมักจะเริ่มต้นจากการใช้ข้อมูลเชิงลึกที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ สำหรับร้านอาหารนั้น ควรเก็บข้อมูลรายการสินค้าที่ขายไปในแต่ละวัน เมนูอะไรขายดีขายไม่ดี รายงานยอดขาย กำไร ขาดทุน วิธีการชำระเงิน รวมถึง ช่องทางที่ขายได้ ยิ่งกับร้านที่ขายหลากหลายช่องทาง หลายแพลตฟอร์มในเวลาเดียวกัน อาจจะมีปัญหาเรื่องการรับออเดอร์ที่อาจสับสน และเลือกทำการตลาดได้ไม่ตรงจุด ดังนั้นการเลือกใช้ระบบบริหารจัดการร้านอาหารอย่าง FoodStory POS เพื่อมาใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของร้านอาหารที่จำเป็นไว้ในระบบเดียวนั้นจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการมาก ๆ  เพราะจะช่วยจัดการทั้งรายงานยอดขาย ระเบียบการรับออเดอร์และบันทึกรายละเอียดแบบครบวงจรในตัวเหมือนมีผู้ช่วยหลายคน ป้องกันการตกหล่นได้แบบอยู่หมัด

5 | เพิ่มลูกค้าประจำด้วยระบบสมาชิกสะสมแต้ม

การทำการตลาดออนไลน์ของร้านอาหารไม่ใช่แค่ต้องทำเพื่อมองหาลูกค้าใหม่ แต่ควรรักษาความสัมพันธ์ระหว่างร้านของคุณและลูกค้าเก่าที่มี Loyalty กับแบรนด์ของเราด้วย เพราะจากงานวิจัยพบว่าลูกค้าประจำนั้นมักจะใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าใหม่ถึง 67% เลยทีเดียว ดังนั้นการทำการตลาดเพื่อรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ให้อยู่กับเรานานที่สุดจึงเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้จริง ๆ เช่น ระบบสะสมแต้มเพื่อแลกรับส่วนลดหรือของรางวัล ส่วนลดหรือของขวัญพิเศษในเดือนเกิด รับสิทธิ์ทานเมนูพิเศษก่อนใคร หรือว่าการให้บริการเล็ก ๆ น้อยเพิ่มเติมที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษกว่าคนอื่น ๆ เช่น สิทธิ์การจองโต๊ะก่อนลูกค้าทั่วไป การ์ดข้อความต้อนรับ หรือบริการ Welcome Set เมนูอาหารเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งบ่อย ๆ เป็นต้น ซึ่งระบบ CRM จาก FoodStory นั้นจะเข้ามาช่วยในการจดจำและบันทึกข้อมูลที่สำคัญของลูกค้าคนพิเศษได้อย่างแม่นยำ เพื่อนำไปวางแผนทำการการทำการตลาดแบบ Personalized ตามข้อมูลสมาชิกของลูกค้า โดยเฉพาะผ่านช่องทาง LINE OA ที่สามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูลลูกค้าและส่งข้อความตาม Tag หมวดหมู่ที่เราติดไว้ในระบบ FoodStory POS ได้เลยทันที       

6 | ติดอันดับการค้นหาด้วย SEO Keyword

ถึงแม้ว่าร้านอาหารจะปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มโลกออนไลน์กันมากขึ้นแล้ว แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะถูกค้นพบบนโลกอินเตอร์เน็ตที่กว้างใหญ่นี้ได้ ดังนั้นการทำ SEO คอนเทนต์ที่มี Keyword ที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารของคุณนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเปิดการมองเห็นให้กับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงในแอปเดลิเวอรี่ด้วยเช่นกัน โดยในชื่อร้านอาจจะต้องระบุให้ครบทั้งสถานที่ตั้งร้าน เมนูเด่น สไตล์ของร้าน หรือประเภทของอาหาร เช่น ‘ร้านฟู้ดสตอรี่ สาขาสุทธิสาร อาหารอีสาน ส้มตำ ไก่ย่าง’ เป็นต้น รวมถึงในคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่โพสลงในอินเตอร์เน็ตก็ควรจะระบุคีย์เวิร์ดเหล่านี้ลงไปอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

7 | User Generated Content

มากกว่าแค่การรีวิวหรือว่าพูดบอกต่อกันปากต่อปาก แต่ปัจจุบันหนึ่งสิ่งที่ร้านอาหารหลาย ๆ ร้านคาดหวังจากลูกค้าก็คือการที่ลูกค้าเต็มใจจะสร้างคอนเทนต์ที่พูดถึงร้านของเราลงในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของลูกค้าเอง อาจจะไม่ใช่แค่การรีวิว แต่เป็นการผสมผสานเข้าไปกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น การถ่ายรูปหรือวิดีโอลงไอจีสตอรี่ การไลฟ์พูดคุยกับผู้ติดตามในขณะที่ใช้บริการในร้าน หรือการถ่าย Vlog ลงยูทูปหรือติ้กต็อก เรียกว่าเป็นการสนับสนุนที่มีมิติมากขึ้นกว่าแค่ตัวหนังสือรีวิวตรง ๆ นั่นเอง ซึ่งในส่วนนี้เราอาจจะต้องยอมรับว่าไม่สามารถกหนดกะเกณฑ์อะไรได้มากนัก ถ้าหากไม่ได้เป็นการจ้างหรือตกลงข้อแลกเปลี่ยนกันไว้ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้และควรทำก็คือการมอบประสบการณืที่ดีในการเข้ามาใช้บริหาร เพื่อให้ลูกค้าบอกต่อผ่านการทำคอนเทนต์อย่างเต็มใจ หรืออาจจะเริ่มจากการทำคอนเทนต์ของทางร้านเองก่อนเป็นไกด์ไลน์ หลังจากนั้นลูกค้าที่ได้เห็นและมีสนใจก็จะร่วมทำคอนเทนต์ไปกับเราเองในที่สุด

8 | คอนเทนต์สร้างไวรัลเชิงบวก

นักการตลาดยุคใหม่ ๆ มักจะบอกว่า Content is king แต่ไม่ใช่ทุกคอนเทนต์ที่จะสามารถสร้างได้ทั้งกระแสไวรัลและเป็นเชิงบวกให้แก่ร้านอาหารของคุณ เพราะงั้นต้องคัดสรรพิจารณาหาคอนเทนต์ที่เหมาะสมมาใช้กับร้านอาหารของคุณ เพื่อเพิ่ม Awareness จากกระแสไวรัลและไม่ส่งผลแง่ลบที่จะกลายเป็น Crisis มาสู่ร้านของคุณได้ ดังนั้นถ้าหากเป็นคอนเทนต์ที่ปล่อยออกมาในนามของทางร้านเองนั้น นอกจากจะคำนึงถึงยอดการเข้าถึงต่าง ๆ แล้ว ก็อย่าลืมนึกถึงผลที่จะตามมาว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ ภาพลักษณ์ของแบรนด์จะเปลี่ยนไปหรือไม่ หรือมันตอบโจทย์กลุ่มรู้ค้าที่เราต้องการหรือไม่ ดังนั้นก่อนที่จะทำคอนเทนต์เพื่อความ Viral เราควรจะตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าจำเป็นหรือไม่ และจุดประสงค์คืออะไร แต่อย่างไรก็ตาม FoodStory เชื่อว่าการทำคอนเทนต์ที่ดีนั้นมีโอกาสที่จะถูกแชร์ต่อและพูดถึงในวงกว้างได้อยู่แล้ว

9 | Collaboration กับออนไลน์พาร์ทเนอร์

คำถามยอดฮิตเวลาเดินเข้าร้านอาหารคือ ‘วันนี้จะกินอะไรดี’ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายและถูกใจมากที่สุดก็คือการ จัดเซ็ตเมนูแนะนำ เป็นโปรโมชั่นพร้อมขายในเมนูหน้าแรก ๆ หรือถ้าเป็นในแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ก็อาจจะปักหมุดไว้บนสุดของเมนู เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นด้วยการจัดเมนูแนะนำตามหมวด เช่น เมนูใหม่ เมนูยอดนิยม เมนูตามเทศกาล ที่จัดเซ็ตออกมาให้ดูคุ้มค่ากว่าการซื้อแยกเป็นจาน ๆ เช่น เพิ่มข้าว เพิ่มซูป เพิ่มเครื่องเคียง ในราคาที่ถูกกว่าปกติ 10% ก็สามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น และยอดซื้อต่อบิลก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน รวมถึงการทำเมนูที่มีการ Collaboration กับร้านอาหารพาร์ทเนอร์อื่น ๆ เพื่อสร้างการแลกเปลี่ยนผู้ติดตามจากทั้ง 2 ฝ่ายให้มาซัพพอร์ตเมนูอาหารที่ทำร่วมกัน ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่กำลังมาแรงมาก ๆ เช่น เมนูไอติมไก่ทอด โดนัทเบอร์เกอร์ ชาบูพิซซ่า

สุดท้ายนี้ FoodStory อยากฝาก 9 ไอเดีย ทำการตลาดร้านอาหาร ผ่านช่องทางออนไลน์ให้ได้ผลดีที่สุดในยุคนี้ ที่ทาง FoodStory นำมาฝากไปลองปรับใช้กัน การันตีว่า การพาร้านอาหารมาลุยตลาดออนไลน์ให้ปังไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน

สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการจัดการร้านอาหาร สามารถลงทะเบียนเพื่อติดต่อรับคำปรึกษาการใช้งานระบบ FoodStory POS และ Wongnai POS ได้ที่นี่เลย! 


FoodStory POS ทำการตลาดร้านอาหาร

FoodStory POS

ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน

ทดลองใช้ระบบฟรี: คลิกที่นี่เลย!

คลิกเพื่อโทรติดต่อฝ่ายขาย

LINE: https://lin.ee/zAdDsCr

Discover more from FoodStory

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading