รู้ให้รอบ! สื่อออนไลน์ไหนเหมาะกับการ "โปรโมทร้านอาหาร"

รู้ให้รอบ! สื่อออนไลน์ไหนเหมาะกับการ “โปรโมทร้านอาหาร”

การทำการตลาดออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ทั้งยังมีคู่แข่งในประเภทธุรกิจเดียวกันอีกมากมาย เราควร " โปรโมทร้านอาหาร " บนสื่อออนไลน์ไหนดี?

แต่คำถามสำคัญสำหรับธุรกิจร้านอาหารคือ รูปแบบการ โปรโมทร้านอาหาร ออนไลน์ แบบไหนเหมาะกับธุรกิจร้านอาหารมากที่สุด? เราควรเลือกทำตามหลาย ๆ เจ้าที่ใช้ทุกแพลตฟอร์มจริงหรือไม่

การ “โปรโมทร้านอาหาร” ออนไลน์ช่องทางไหนดีที่สุด คำถามเหล่านี้คงคาใจเจ้าของร้านอาหารหลายท่านอยู่ไม่น้อย แต่วันนี้ Foodstory ขอแชร์หลักการประเมินพื้นฐานที่จะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจลงทุนและลงแรงในแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อโปรโมทร้านอาหารออนไลน์ มาฝากกัน

แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักตัวเองกันก่อนจะเข้าสู่หลักการประเมินว่าเราเหมาะกับแพลตฟอร์มออนไลน์แบบไหนกันบ้าง

รูปแบบธุรกิจร้านอาหารและอายุการเก็บรักษา (Shelf Life)

อย่างแรกเราประมาณก่อนว่ารูปแบบของร้านเรา มี Shelf Life นานแค่ไหน เป็นอาหารปรุงสุกวันต่อวัน หรือร้านอาหารอาหารแห้ง อาหารแช่แข็ง จึงจะสามารถเลือก Platform online เพื่อ โปรโมทร้านอาหาร ของเราได้ถูกต้องและตรงจุด

เริ่มต้นกันด้วย รูปแบบธุรกิจการทำร้านอาหารของคุณ และอายุการเก็บรักษาอาหารของคุณอยู่ได้นานแค่ไหน

ร้านอาหารผลิตวันต่อวัน เช่น ร้านอาหารตามสั่ง ฯลฯ หรือร้านที่สามารถจัดสต๊อกแบบ FIFO (First In, First Out) ภายในสัปดาห์
อายุการเก็บรักษา (Shelf Life) กรณีที่มีอายุการเก็บรักษาได้นาน

เช่น สามารถทำวัตถุดิบแช่แข็งได้ แล้วจึงนำมาประกอบอาหาร ก็สามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ได้มากขึ้น แต่หากมีข้อจำกัดในเรื่องอายุการเก็บรักษา การเลือกใช้แพลตฟอร์มอาจต้องตัดขั้นตอนการสร้างการรับรู้ (Awareness) ที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานออกไป หรืออาจปรับลำดับความสำคัญให้น้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ

การตั้งราคาอาหารและค่าส่ง

ก่อนที่เจ้าของร้านอาหารจะทำการ โปรโมทร้านอาหาร ผ่านสื่อช่องทางออนไลน์ไป ควรคำนวนราคาอาหารและค่าจัดส่งให้ดีก่อนเพื่อไม่ได้เกิดการขาดทุน หรือ ้รกกำื แนหะ ที่เพิ่มขึ้นมาหลังการจัดส่งแบบไม่รู้ตัว

อีกหนึ่งข้อจำกัดของร้านอาหารที่สำคัญในการโปรโมทร้านอาหารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์คือเรื่อง “ค่าอาหาร & ค่าส่ง” ในบางร้านเชือดเฉือนกันด้วยการจัดโปรโมชันกระหน่ำลดค่าส่ง แต่เพิ่มราคาอาหารแทนโดยที่ลูกค้าอาจไม่ทราบมาก่อน

ในขณะเดียวกัน บางร้านก็ลืมคิดในส่วนนี้ไป เมื่อต้องโปรโมทร้านอาหารออนไลน์ก็ติดปัญหาเรื่องการเพิ่มราคาอาหารไม่ได้ แถมยังมีค่าส่งที่สูงกว่าเจ้าอื่น ๆ ประเด็นนี้จึงเป็นประเด็นที่ร้านต้องระวังก่อนวางแผนโปรโมทร้านอาหารออนไลน์

เป้าหมายการใช้สื่อออนไลน์คืออะไร?

สิ่งต่อมาที่ควรให้ความสำคัญคือ เราจะใช้สื่ออนไลน์ ต่างๆเพื่อเป้าหมายใด เช่น การโปรโมทร้านอาหารเราให้คนเห็นมากขึ้น (Awareness)

ประเด็นยังคงร้อนแรงสำหรับเจ้าของร้านอาหารหลายท่าน เพราะปัจจุบันมักเกิดปัญหาเรื่องความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการใช้สื่อออนไลน์ แถมมีคำศัพท์ยากที่ทำเอาสับสนไปตาม ๆ กัน

Awareness = การสร้างการรับรู้
Engagement = การมีส่วนร่วม เช่น การสร้างแคมเปญ กิจกรรมต่าง ๆ บน Facebook เป็นต้น
Conversion = การเกิดยอดขาย

ถ้าได้คำตอบแล้วว่าธุรกิจร้านอาหารของคุณเน้นไปที่เป้าหมายไหน เราจะไปต่อกันที่ “เช็กลิสต์แพลตฟอร์มไหนเหมาะกับการ โปรโมทร้านอาหาร ของคุณ” กัน

Facebook

ข้อดี ของ Facebook

สร้างการรับรู้ (Awareness)
สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement)
สร้างยอดขาย (Conversion)
ลูกเล่นการสื่อสารกับลูกค้ามีหลากหลายรูปแบบ
ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ยกเว้นกรณียิงโฆษณา

ข้อจำกัด

การสร้างการรับรู้ (Awareness) ต้องใช้เวลาและอาจมีต้นทุนที่สูง
การสร้างการมีส่วนร่วมไม่ได้การันตียอดขาย และหากกำหนดกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงก็อาจจะได้กลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มที่เราต้องการ

Facebook เหมาะกับการ โปรโมทร้านอาหาร ประเภทไหน?

เหมาะกับร้านแบบไหน

ร้านอาหารที่ต้องการสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เมื่อลูกค้าต้องการเสิร์ชหา
ร้านที่ต้องการสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง
ร้านที่ต้องการสร้างกระแสจากแคมเปญ หรือข่าวสารต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ
ได้ทั้งแบบมีหน้าร้านและทำเดลิเวอรี

Instagram (IG)

ข้อดีของ Instagram

สร้างการรับรู้ (Awareness) ผ่านภาพอาหารและวิดีโอได้ดี
เน้นสื่อสารด้วยภาพอาหารน่าทาน ทำให้เกิดการซื้อได้ง่ายขึ้น
เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ลูกค้าร้านอาหารชอบใช้
ลงโพสต์รีวิวจัดเก็บเป็น Highlight ได้

ข้อจำกัด

การกดสั่งผ่านลิงก์ในแคปชันจะไม่สามารถกดได้ ลูกค้าต้องพิมพ์ค้นหา หรือติดต่อร้านเองโดยตรง
ระยะเวลาการลงวิดีโอจะจำกัดมากกว่า Facebook

Instagram เหมาะกับการ โปรโมทร้านอาหาร ประเภทไหน?

เหมาะกับร้านแบบไหน

ร้านที่เน้นเดลิเวอรี กดสั่งผ่านการเห็นภาพอาหารน่าทาน
ร้านที่ต้องการสร้างการรับรู้ผ่าน Influencers ต่าง ๆ

LINE Official Account หรือ Line OA

ข้อดี ของ LineOA

เป็นช่องทางที่สื่อสารและจัดเก็บข้อมูลลูกค้าผ่านฟีเจอร์สะสมแต้ม หรือคูปองได้
ยิงข้อมูลข่าวสารได้ทั้งแบบภาพ ข้อความ และวิดีโอ
สามารถสร้างมินิเว็บไซต์ของตัวเอง และมีระบบเรียกเก็บเงินในตัว

ข้อจำกัด

มีค่าใช้จ่ายในการยิงโดยเรียกเก็บเป็นแพ็กเกจรายเดือน
ข้อจำกัดด้านการใช้งานเยอะกว่าแพลตฟอร์มอื่น
ไม่สามารถลบหรือแก้ไขข้อมูลที่ส่งไปยังลูกค้าได้

Line OA เหมาะกับร้านอาหาร ประเภทไหน?

เหมาะกับร้านแบบไหน

ร้านที่ต้องการเก็บข้อมูลลูกค้าเอง และสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง
ได้ทั้งร้านที่มีทั้งหน้าร้านหรือทำเดลิเวอรี

Youtube

ข้อดี ของ Youtube

ช่องทางการโปรโมทร้านอาหารในรูปแบบวิดีโอ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ดีและเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
สามารถลิงก์เข้ากับ Google Ads ยิงหาลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย

ข้อจำกัด

รูปแบบคอนเทนต์ได้เฉพาะสื่อวิดีโอ

Youtube เหมาะกับร้านอาหาร ประเภทไหน?

เหมาะกับร้านแบบไหน

ร้านที่อยากเข้าถึงลูกค้าอย่างรวดเร็วด้วยสื่อวิดีโอ
ได้ทั้งร้านที่มีทั้งหน้าร้านหรือทำเดลิเวอรี

Google My Business

ข้อดี ของ Google My Business

ยืนยันตัวตนผ่าน Google แพลตฟอร์มที่ใช้ในการค้นหามากที่สุด

ข้อจำกัด

การรีวิวบน Google My Business ยังไม่นิยมหรือแพร่หลายในไทยมากนัก

Google my business เหมาะกับการ โปรโมทร้านอาหาร ประเภทไหน?

เหมาะกับร้านแบบไหน

ร้านที่ต้องการปักหมุดบน Google Map เพื่อให้ลูกค้าหาร้านเจอ
ร้านที่ต้องการยืนยันความเป็นร้านจริง (Official) สร้างความน่าเชื่อถือของร้านบน Google ได้

ช่องทาง E-commerce (LAZADA, Shopee)

ข้อดี ของ E-Commerce Website / Application ( Lazada / Shopee )

สร้างยอดขายได้รวดเร็ว จากการเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ
เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อในช่วงเวลาที่รวดเร็ว

ข้อจำกัด

การแข่งขันสูง อาจต้องจัดโปรโมชันลดกระหน่ำเพื่อจูงใจลูกค้ามากกว่าปกติ

E-Commerce เหมาะกับการ โปรโมทร้านอาหาร ประเภทไหน?

เหมาะกับร้านแบบไหน

ร้านที่สามารถลดแลกแจกแถมได้อย่างต่อเนื่องตามเงื่อนไขที่แคมเปญกำหนด
ร้านที่สามารถขนส่งได้ เช่น เมนูแช่แข็ง, เมนูที่มีอายุการเก็บรักษาได้หลายวันแม้ไม่ต้องแช่เย็น