ปฎิเสธไม่ได้ว่าที่กระแสชาบูสุกี้น้ำดำกับน้ำจิ้มไข่ดิบนั้นเริ่มต้นมาจากร้าน Mo-Mo-Paradise แห่งนี้ ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ในตอนแรกจะทำให้คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างไปจากเดิมค่อนข้างมาก จนมาถึงในวันที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จักชาบูสุกี้ยากี้จุ่มไข่ วันนี้ FoodStory จึงขอชวนมาไขความลับความสำเร็จของ Mo-Mo-Paradise ไปพร้อม ๆ กันกับคุณเอ สุรเวช เตลาน ผู้บริหาร Mo-Mo-Paradise ประเทศไทย
จุดเริ่มต้นของ Mo-Mo-Paradise จากประเทศญี่ปุ่นสู่ 30 สาขาในประเทศไทย
เริ่มต้นจากการที่คุณเอ ชื่นชอบในการทานชาบูและสุกี้สไตล์ญี่ปุ่น แต่ในไทยยังไม่มีร้านอาหารประเภทชาบูและสุกี้สไตล์ญี่ปุ่นมากนัก วันนึงมีโอกาสได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและได้มีโอกาสได้ทานชาบูและสุกี้ที่ร้าน Mo-Mo-Paradise จึงเกิดความชื่นชอบในคุณภาพรสชาติของอาหารและการบริการอย่างมาก และเล็งเห็นถึงกลุ่มของที่ร้านเป็น กลุ่มลูกค้าและราคาในระดับกลาง แต่คุณภาพอาหารและการให้บริการนั้นไม่แพ้ร้านอาหารที่มีระดับที่สูงกว่า จึงเริ่มติดต่อเจ้าของเพื่อขอนำแฟรนไชส์มาเปิดที่ประเทศไทย
สาขาหน้าร้านปัจจุบันมีทั้งหมด 30 สาขา ( รวมธุรกิจ 3 แบรนด์ )
- Mo-Mo-Paradise
- Mo-Mo-Paradise Gold
- Nabezo Premium
ทำการตลาดในช่วงแรกของการเปิดร้าน Mo-Mo-Paradise ในประเทศไทยอย่างไร?
ในช่วงแรกนั้น Mo-Mo-Paradise ไม่ได้เน้นการตลาด แต่เน้นเป็นการทำให้คนไทยได้รับรู้และยอมรับถึงการทานชาบูและสุกี้สไตล์ญี่ปุ่นมากขึ้น เพราะวิธีการทานชาบูและสุกี้สไตล์ญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างต่างจากสุกี้สไตล์ไทย ซึ่งถือว่าเป็นร้านแรกในไทยที่พยายามนำเสนอให้ “สุกี้ทานคู่กับไข่ดิบ”จนปัจจุบันมีการทานสุกี้คู่ไข่ดิบอย่างแพร่หลาย
ช่วงโควิดที่ผ่านมาทางร้านรับมืออย่างไรเมื่อลูกค้าไม่สามารถทานข้าวที่ร้านได้ ?
Mo-Mo-Paradise พยายามสร้างประสบการณ์การทานอาหารในร้านเป็นหลักจึงไม่มีทำเดลิเวอรี่ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์โควิดที่ไม่สามารถทานที่ร้านได้ ทำให้ต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก โดยคุณเอสร้างโจทย์ว่า “ทำอย่างไรถึงจะสามารถควบคุมคุณภาพและความคุ้มค่าเมื่อลูกค้าสั่งอาหารกลับไปทานที่บ้านให้เทียบเท่ากับทานที่ร้าน” โดยคำนึงถึงคุณภาพ ปริมาณ การแพ็คและการส่งสินค้าให้ลูกค้า นั่นถือเป็นโจทย์ที่ยาก แต่ก็สามารถจัดการและผ่านมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พฤติกรรมลูกค้าหลังโควิดมาการเปลี่ยนไปมากน้อยเท่าไหร่ ?
พฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันเริ่มกลับมาเป็นปกติเกือบจะ 100% แล้ว เนื่องด้วยมาตรการต่าง ๆ ทางร้านมีการปรับตัวเข้าสู่ยุคหลังโควิดโดยการมีที่คีบกลางเป็นส่วนบุคคล เพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนของเชื้อโรค และที่ผ่านมาของช่วงที่มีโรคระบาดยังไม่พบว่ามีลูกค้าติดโควิดจากทางร้าน ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในร้าน Mo-Mo-Paradise เป็นอย่างมาก
อะไรคือความท้าทายของการดำเนินธุรกิจร้านอาหารของคุณในปีนี้ ?
ความท้าทายในปีนี้คือ “การท้าทายตัวเอง” เพราะเมื่อสถาณการณ์เริ่มกลับสู่ปกติหลังจากยุคโควิดเริ่มลดลง พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป มีการสั่งอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ ทำให้ร้านอาหารต้องงัดกลยุทธ์ออกมาเพื่อดึงลูกค้าให้เข้าร้านตัวเองมากขึ้น
ในช่วงโควิดต้นทุนร้านอาหารผันแปล ต้นทุนอาหารสูงขึ้น ทางร้านมีการจัดการหรือควบคุมต้นทุนในส่วนนี้อย่างไร ?
ต้นทุนของอาหารนั้นแพงขึ้นต่อเนื่อง แต่ละร้านมีการจัดการกับต้นทุนที่สูงขึ้นแตกต่างกันออกไป โดย Mo-Mo-Paradise มีโจทย์ว่า “คุณภาพต้องไม่ต่างจากเดิมแต่ต้องทำการควบคุมให้ดีขึ้น เน้นการควบคุมการสูญเสีย ควบคุมทุกด้านที่เป็นการสิ้นเปลือง เพื่อทำให้เราควบคุมให้ได้มารตฐาน ” ก็จะสามารถลดต้นทุนได้พอสมควร
เทคโนโลยี เข้ามาช่วยเรื่องการควบคุมต้นทุนมากน้อยแค่ไหน?
เทคโนโลยีมีช่วยในการควบคุมต้นทุนได้แน่นอน เมื่อก่อน Mo-Mo-Paradise ใช้ Excel เป็นหลักทำให้ยุ่งยากต่อการคำนวณ แต่ปัจจุบันใช้ระบบเทคโนโลยีจาก FoodStory เข้ามาช่วยควบคุม มีการผูกสูตรวัตถุดิบอาหาร ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีและยังสามารถทำให้ทราบถึงที่มาที่ไปเมื่อเกิดข้อผิดพลาดของการใช้วัตถุดิบเมื่อมีการใช้มากหรือน้อยเกินไป FoodStory สามารถช่วยได้เยอะมาก ๆ และทำให้เราควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าเดิมอย่างมากแน่นอน
ทำไมถึงเลือกใช้ระบบ FoodStory POS?
เมื่อร้าน Mo-Mo-Paradise มีการขยายสาขาที่มากขึ้น จึงมองหาระบบตัวช่วยบริหารร้านอาหารเข้ามาช่วย ก็พบว่า FoodStory พัฒนาระบบไปไกลมาก ค่อนข้างตอบโจทย์ลูกค้า ตอบโจทย์ร้านอาหารได้เป็นอย่างดี เพราะได้พูดคุยกับผู้บริหารของ FoodStory ผู้บริหารมีการเก็บข้อมูลกับร้านค้าร้านอาหารหลายๆร้านอย่างถี่ถ้วน เพื่อจะดูข้อดีข้อเสียต่างๆของระบบ จนกลายเป็นระบบที่เรียกว่าค่อนข้างสมบูรณ์แบบอีกทั้งระบบสามารถรองรับในการเติบโตได้มากกว่า จึงตัดสินใจเริ่มลองใช้ FoodStory โดยเริ่มทดลองใช้บางสาขา แต่พอใช้แล้วผลตอบรับดีมาก เสถียร มีคุณภาพที่ดี เก็บข้อมูลให้เราได้อย่างถีถ้วนปัจจุบันจึงมีการใช้ FoodStory กับทุกสาขาของร้าน Mo-Mo-Paradise
ระบบ Inventory Management มีส่วนช่วยในการคาดการณ์จำนวนวัตถุดิบอย่างไรบ้าง ?
สามารถช่วยได้แน่นอน เมื่อเราสามารถเก็บข้อมูลตัวเลขที่ชัดเจนได้แล้ว จึงสามารถนำมาคิดคำนวณต่อได้ว่าร้านควรจะต้องวางแผนการ Built to order เท่าไหร่ ตัวอย่างเช่น การใช้วัตถุดิบแต่ละสาขาไม่เท่ากัน ดังนั้นเราจะใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลเก่าในสาขานั้นๆเพื่อทำการเปรียบเทียบหาค่ากลางของแต่ละสาขาเพื่อนำไปคำนวณในการใช้วัตถุดิบต่อไป
หลังจากที่เราเก็บข้อมูลของแต่ละสาขาได้แล้ว สามารถช่วยลดต้นทุนได้มากน้อยแค่ไหน?
ถ้ามีการเก็บข้อมูลอย่างถูกต้องและตั้งเป้าหมายเพื่อที่จะนำมาลดต้นทุนเป็นมาตรฐานของร้านนั้น สามารถทำได้จริงเป็นนัยยะและช่วยให้ร้านลดต้นทุนได้อย่างมาก
การรับชำระเงินแบบ Cashless มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง?
ผลตอบรับค่อนข้างดีสำหรับลูกค้า สามารถชำระเงินได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องพกเงินสด เลือกชำระได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น QR Payment หรือการใช้บัตรเครดิต สิ่งที่ดีสำหรับทางร้านเลยคือสามารถตรวจสอบ fraud หรือการทุจริตของทางร้านได้อย่างดี การรับชำระผ่านเงินสดน้อยลงทำให้เกิดการทำทุจริตของทางร้านได้ยากขึ้น
อัตราการชำระเงินของลูกค้าในปัจจุบัน
ปัจจุบันร้านโมโม่พาราไดซ์มีลูกค้าชำระโดย QR Payment และบัตรเครดิต ถึง 95% และมีเพียง 5% เท่านั้นที่ยังชำระเป็นเงินสด ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่ไม่คุ้นเคยกับแอปพลิเคชันและกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ระบบ POS ร้านอาหาร เข้ามาช่วยในส่วนของการทำบัญชีมากน้อยแค่ไหน ?
ระบบ POS ร้านอาหาร เข้ามาช่วยในการทำบัญชีได้สะดวกขึ้นแน่นอน เพราะสมัยก่อนตอนใช้ระบบ POS เก่าต้องรวบรวมข้อมูลเข้าส่วนกลางก่อนและจึงค่อยคิดคำนวณต่ออีกครั่งเพื่อรวบรวมข้อมูลเป็นก้อนเดียว แต่หลังจากที่ใช้งาน FoodStory POS เป็นระบบที่ควบคุมส่วนกลางได้ ระบบสามารถดึงข้อมูลของแต่ละสาขาเข้ามารวมกันในส่วนกลาง สามารถดูแยกสาขาได้หรือดูทีเดียวรวมทุกสาขาก็ได้ ทำให้ทางทีมบัญชีสามารถเห็นข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ทำบัญชีและสรุปบัญชีได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นและก็ค่อนข้างแม่นยำ
สูตรความสำเร็จของการบริหาร Mo-Mo-Paradise คืออะไร ?
คุณเอ ผู้บริหาร Mo-Mo-Paradise กล่าวว่า “ ไม่มีสูตรความสำเร็จที่ตายตัว มีแต่สิ่งที่เรามุ่งมั่น คิดและพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด ” การจะทำร้านอาหารให้สำเร็จ คือการที่เราจะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด ( รสชาติ คุณภาพ และการบริการ ) ให้ลูกค้าได้อย่างไร สิ่งเหลานี้คือสิ่งที่ผู้ประกอบการควรเข้าใจก่อนถึงจะสามารถประสบความสำเร็จได้
มีแผนพัฒนาธุรกิจต่อไปอย่างไรในอนาคต?
ร้าน Mo-Mo-Paradise ไม่เคยที่จะหยุดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ถ้าเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีและจะสามารถส่งมอบสิ่งที่ดีเหล่านี้ได้ถึงลูกค้ามากขึ้น ในส่วนของการขยายสาขามีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และจะค่อย ๆ ขยายอย่างต่อเนื่องอย่างมีคุณภาพเพื่อจะคงคุณภาพการให้บริการในทุก ๆ ที่ที่เปิดให้บริการ
คำแนะนำให้เพื่อนร่วมวงการ การบริหารร้าน การใช้เทคโนโลยี เทคนิคที่ช่วยเอาชนะใจผู้บริโภค
คุณเอ ผู้บริหาร Mo-Mo-Paradise กล่าวว่า การที่จะประสบความสำเร็จในการทำร้านอาหารนั้นไม่มีสูตรตายตัว ร้านอาหารแต่ละร้านมีรูปแบบการให้บริการที่ไม่เหมือนกัน แตกต่างกันออกไป เราต้องทำความเข้าใจว่า เราจะบริการร้านเรายังไงให้ดีที่สุดเพื่อที่จะสามารถมอบสิ่งดีๆให้กับลูกค้าให้ได้
คุณเอกล่าวต่อว่า ไม่อยากให้มองร้านอาหารข้าง ๆ เป็นคู่แข่งหรือการแข่งขันกัน เพราะสั่งเหล่านั้นไม่ทำให้เกิดการพัฒนาแต่จะทำให้หลุดโฟกัสเสียมากกว่า ดังนั้นร้านอาหารทุก ๆ ร้านควรจะเป็นพันธมิตรมากกว่าคู่แข่งกัน จึงจะสามารถช่วยให้ร้านอาหารช่วยกันพัฒนาต่อไปได้อีกมากและส่งผลให้ร้านอาหารทุกร้านนั้นเป็นผู้ประสบความสำเร็จได้ด้วยกันทั้งหมด
FoodStory POS
ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน
ทดลองใช้ระบบฟรี: คลิกที่นี่เลย!
โทร: 065-513-7744