fbpx Skip to content

ทำความรู้จัก ” คุ้มสึ ” ข้าวหน้าเนื้อพ่นไฟ 60 สาขา ขวัญใจสาย Delivery

อีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงในช่วงนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น “ข้าวหน้าเนื้อพ่นไฟ” ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตตลอดกาลอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เมื่อก่อนนี้ราคาของเนื้อวัวและกรรมวิธีการทำอาจจะทำให้ราคาขายค่อนข้างสูง ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถทานได้บ่อย ๆ แต่ในปัจจุบันคุณเอิร์ธ เจ้าของและผู้บริหารร้าน คุ้มสึ สามารถพลิกเอาเมนูยอดฮิตนี้มาเสิร์ฟในรูปแบบของเดลิเวอรีในราคาที่เป็นมิตร แต่คุณภาพยังคงคับแก้วเหมือนเดิม ตอบโจทย์สาย Delivery ที่ชอบเมนูนี้อย่างมาก เพราะมีกว่า 60 สาขาทั่วกรุงเทพฯ

จุดเริ่มต้นของร้าน คุ้มสึ ข้าวหน้าเนื้อพ่นไฟ

ร้านคุ้มสึเริ่มมาสัก 3 ปีที่แล้วนะครับ เป็นแบรนด์ข้าวหน้าเนื้อพ่นไฟ ไอเดียก็มาจากการที่ผมชอบกินข้าวหน้าเนื้อแล้วผมก็เห็นว่าธุรกิจออนไลน์กำลังเติบโต เราก็เป็นเหมือนคนขี้เกียจในเมือง เราคิดว่ามันต้องมีคนแบบเรามีเยอะแน่ ๆ เลย เราก็เลยไปเปิดสาขาแรกที่สุขุมวิท 31 ครับ พอเปิดก็ก็ได้รับผลตอบรับที่โอเคประมาณหนึ่ง ยอดขายก็ประมาณ 60,000 บาท แล้วมันก็ดับเบิ้ลเป็น 120,000 เป็น 240,000 บาท ผมก็เลยขยายสาขา พอมันประสบกับช่วงโควิดพอดีด้วย ค่าเช่ามันก็ถูก ผมก็ได้รับฉายาว่าเป็นเทพเจ้าที่ เลยตอนนั้น คือไปหาแล้วก็ได้ที่ราคาถูก

คุ้มสึ เจ้าของร้าน CEO

คือผมว่าที่ไหนที่มันมีคนอยู่กระจุกอย่างเช่น โซนออฟฟิศ มีคอนโดเยอะ มีหมู่บ้านเยอะ ก็จะเป็นที่ที่ผมไปก่อนเป็นที่แรก ๆ โซนนอกเมืองเราก็อยากไปแต่ว่าเราก็จะให้ความสำคัญกับในเมือง เช่น อโศก ราชเทวี อ่อนนุช อารีย์ บางซื่อ ให้มันแน่นก่อน แล้วก็กระจายออกไปครับ ผมก็เลยสเกลธุรกิจได้มาก จาก 5 เป็น 10 เป็น 15 ถึง 20 ปัจจุบันก็ประมาณเกือบ 60 สาขาแล้วครับ แต่จะมีหน้าร้านที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เรียบด่วนรามอินทรา พระราม 5  ซอยแจ้งวัฒนะ 1 อารีย์ และที่ซอยสายลมครับ เมนูซิกเนเจอร์ของที่ร้านก็จะเป็นข้าวหน้าเนื้อพ่นไฟ หรือคนที่ไม่ทานเนื้อก็จะมี ข้าวหน้าหมู และ ข้าวหน้าหมูสามชั้นพ่นไฟ แต่ว่าเมนูเด็ดอีกอันของเราที่คนไม่ค่อยรู้ก็คือ หม่าล่าไต้หวัน ซึ่งขายมาตั้งแต่เปิดร้านแรก ๆ ก่อนที่จะมาฮิตกันในช่วงนี้ ก็อยากให้มาลองทานกันดูครับ

จุดเปลี่ยนของร้าน Delivery หลังยุคโควิด

ในช่วงโควิดเป็นเหมือน Good problem นะครับที่เราเจอ เพราะว่ามันเป็นปัญหาที่เราโตแล้วเราก็เจอบ้าง ตั้งแต่เรื่องแมนพาวเวอร์ เรื่องไรเดอร์รอนาน รวมถึงหาที่ไม่ทัน อยากเปิดแต่ว่าทีมงานไม่พอ อยากจะขยายแต่ว่าขยายไม่ทันใจ แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่ดีหมดเลย อย่างตอนแรกยอดขายไม่มา เราก็ต้องรอให้คนรู้จัก แล้วพอยอดขายมาแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือ ‘ทำไม่ทัน’ พอทำไม่ทันมันก็จะเกิดปัญหาที่ว่าจะทำยังไงให้ทัน ก็ต้องเพิ่มเตา เพิ่มคน การจัดการออเดอร์ก็ไว ไรเดอร์ก็มาแล้วได้ออเดอร์ไว แล้วเราก็ได้ Transaction ที่ดี ก็ Happy ทุกฝ่าย 

แต่พอหลังโควิดผู้คนก็ออกมากินข้าวนอกบ้านมากขึ้น แต่ผมก็สังเกตว่าก็ยังมีคนส่วนหนึ่งที่ก็ยังสั่ง Delivery อยู่ดี มันก็ยังสะดวกกับคนที่ไม่ชอบไม่ชอบออกไปไหน ไม่ชอบออกจากบ้าน คนกลุ่มนี้เขาก็สั่งอยู่ แต่ว่าคนที่ชอบออกไปสังสรรค์ชอบไปใช้ชีวิต เขาก็ออกไปใช้ชีวิต ยอดขายมันก็เหมือนจะตกมานิดนึง แค่ประมาณ 15 – 20% คือมันก็ตกอยู่ในระดับที่เราเข้าใจได้ว่าคนออกมาใช้ชีวิตกันแล้ว แต่ก็ยังมีคนสั่งอาหารที่ร้านเราอยู่ครับ

คุ้มสึ ข้าวหน้าเนื้อพ่นไฟ

บางทีเราต้องคิดหาอะไรใหม่ ๆ เพราะบางที 3 ปี คนก็ชินกับเมนูเราแล้ว ความยากก็คือว่าจะทำยังไงให้ส่วนที่มันเคยขายดี สมมติว่าข้าวหน้าเนื้อผมเคยขายได้ 2-3 ล้านชาม จะทำยังไงที่จะมี New product ที่ยอดขายชนะหรือว่าใกล้เคียงได้ อันนี้ก็เป็นความท้าทายของธุรกิจอาหารของผม รวมถึงธุรกิจที่มันเติบโตเนี่ยมันต้องอาศัยทีมงานที่ดี การที่จะจัดวัฒนธรรมองค์กรที่ดีผมว่ายาก มันคือเรื่องคน มันก็เหมือนเป็นศาสตร์ที่เรียนไม่รู้จบสักทีนึง ซึ่งถ้าทำได้ 2 ส่วนนี้ผมว่ามันก็จะไปไกล เพราะว่าโดยตัว Product หรือ Market Fit ของ Kumtsu เองผมว่ามันดี มันได้ Branding ที่ดีแล้ว 

และในตอนนี้ก็ทางร้านเราอยากจะทำพวก Media Channel อื่น ๆ ครับ โดยยึดจากสโลแกน “ความคุ้ม” เพราะเราเริ่มจากความคุ้มค่าของอาหารของเรา ถ้าเกิดเราสามารถทำช่องที่ขยายความคุ้มของเราไปได้โดยที่มีแบรนด์คุ้มสึของเราติดไปด้วย ผมว่าคนก็น่าจะชอบ เหมือนเราไปตอบโจทย์ลูกค้า เช่น คุ้มโฮเทล คุ้มคอสเมติก หรือแม้แต่ในกลุ่มของ Real Estate หรือ Cars คือถ้าเราตอบโจทย์ความคุ้มไห้กับคนทั่ว ๆ ไปได้มันก็จะยิ่งดี

FoodStory POS ตัวช่วยจัดการข้อมูลร้านอาหารในระบบเดียว

พอใช้เทคโนโลยีอย่างระบบ FoodStory POS เข้ามาช่วยบริหารจัดการตรงนี้ก็สะดวกขึ้น เวลาคีย์ข้อมูลเวลาเรียกข้อมูลดู หรือว่าการ Deploy ข้อมูลสำคัญ มันทำให้ทีมทำงานเป็นระบบด้วย ถ้าหน้าบ้านก็คือเราสามารถจิ้ม แล้วก็บริหารข้อมูลได้ไว สมมติสั่งข้าวหน้าเนื้อพ่นไฟ 3 ที่ เพิ่มไข่ออนเซ็น พอเรามี POS ก็จะไม่ต้องจดเอง มันก็สะดวกกว่า แล้วสิ้นวันก็มาดู Report ว่าขายอะไรไปบ้าง รวมถึงนโยบายของร้านคุ้มสึตั้งแต่แรกก็คือเราจะรับเป็น Contactless Payment ก็คือว่าเราไม่รับเงินสดเลย ลูกค้าทั้ง 100% ก็ใช้การโอนทั้งหมด ด้วยความที่ระบบการรับชำระเงินของเรามันก็เป็น QR ตั้งแต่แรก ฉะนั้นมันก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเด็กในร้านจะโกงเงินในแง่ว่าเก็บเงินแล้วไม่เอาเงินเข้า เท่าที่ใช้มาก็ยังไม่เจอปัญหาอะไรครับ 

ในส่วนของหลังบ้านเอง ใบสั่งซื้อและใบส่งของ ระบบ FoodStory ก็ตอบโจทย์เพราะช่วยลดระยะเวลาการทำงานลงไปได้และเป็นระบบมากขึ้น ช่องทางการรับออเดอร์จากเดลิเวรีต่าง ๆ เราก็แยกตาม Sales Channel เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครเป็นผู้นำตลาดของร้านเรา ซึ่งเราสามารถเอาสัดส่วนยอดขายแต่ละชาแนลมาวิเคราะห์ได้ อย่างตอนนี้ก็จะมีแอปสีเขียวและสีส้มที่มาแรง ถ้าช่วงไหนที่ยอดช่องทางไหนตกเราก็จะทราบ แต่ถ้าเราไม่ใช้ ทุกออเดอร์มันก็จะรวม ๆ กัน ทำให้จัดการข้อมูลต่อได้ยาก 

การดูยอดขายของแต่ละสาขาผมก็เรียกดูได้เลยทันทีจาก FoodStory ถ้าดูไว ๆ เช่น สมมุติวันนี้ฝนตกผมอยากรู้ว่าสาขานี้มันดีไหมเพราะเห็นเขาบอกน้ำท่วม ผมก็เลือกดูได้เลยครับ และไม่ใช่แค่ผู้บริหารที่ดูได้ แต่อย่าง Area Manager ของผมเขาก็เข้าไปมอนิเตอร์ยอดขายจาก FoodStory ได้เช่นกัน คือเราสามารถเลือกให้สิทธิ์ในการ Access ข้อมูลในแต่ละส่วนได้ เรียกว่าช่วยได้ในทุกระดับของการบริหารงานเลย และข้อมูลพวกนี้มันเอามาวิเคราะห์อะไรได้เยอะ อย่างโปรโมชั่นนี้มันขายได้ดีเท่าไหน ที่เราทำโปรโมชันหนึ่งแถมหนึ่งไปเป็นยังไง หรือว่าถ้าผมอยากรู้ว่าท็อปปิ้งไข่ดองสูตรใหม่มันขายดีไหม คือเราเราดูได้หมดเลย รวมถึงการ Setup ระบบที่ไม่ได้ซับซ้อน มีระบบ CRM ให้ด้วย ถือว่าเป็นระบบที่ดีที่สุดที่ผมหาเจอและใช้อยู่ ณ ปัจจุบันครับ

เคล็ดลับความสำเร็จของ คุ้มสึ ข้าวหน้าเนื้อพ่นไฟ 60 สาขา

ทำไมคุ้มซื้อขายดี ผมว่าหนึ่งเลยคือ Business Model มันค่อนข้างดี ประกอบกับสชาติอาหาร ประกอบกันมันเลยทำให้ประสบความสำเร็จครับ คือถ้าราคาประมาณนี้แต่รสชาติเป็นอีกแบบนึงมันก็ไม่ได้ แต่ถ้าอร่อยแล้วราคาความสะดวกอะไรไม่ได้ มันก็จะไม่ได้ใช่ไหมฮะ สมมุติผมมีสาขาแค่สาขาเดียว แล้วบ้านลูกค้าอยู่ลาดกระบัง ค่าส่ง 50 บาท จากข้าวราคา 119 บาทบวกค่าส่ง 50 บาทมันก็ไม่ถูกแล้ว แต่ความที่สาขาเยอะมันก็ทำให้ทุกอย่างมันอยู่ในราคาที่ดี ผมว่ามันก็เลยทำให้แบรนด์เราประสบความสำเร็จครับ 

คุ้มสึ เมนู ราคา

ส่วนใครที่กำลังคิดว่าอยากจะเปิดร้านอาหาร ผมแนะนำว่าถ้าจะทำแล้วอาจจะต้องลองคิดคร่าว ๆ ให้รอบคอบหน่อย ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่า ค่าคน รวมถึงค่าการใช้หรือ POS ต่าง ๆ ด้วย เพราะ POS บางเจ้าใช้ฟรีก็จริง แต่ฟีเจอร์ไม่ตอบโจทย์ แต่อย่าง FoodStory POS มีสิ่งที่ตอบโจทย์แต่ก็มีค่าใช้จ่าย เราก็ต้องมาดูว่ายอดขายเราเหมาะสมหรือยังที่จะใช้ หรือไปเรียนคอร์สคอร์สกับคุณต่อเพนกวินก็ได้ครับ มันจะมีเรื่อง Fleasibility วิธีการเลือกทำเล การทำบัญชีร้านอาหาร ผมว่าลองปวดหัวเรื่องพวกนั้นก่อน แล้วถ้าเกิดคุณปวดหัวแล้วคุณบอกว่าสบาย อันนี้ผมว่าน่าทำ แต่ถ้าทำเลยไม่วางแผนผมว่ามันเหนื่อย เพราะมันจะมาแก้ทีหลังระบบอะไรพวกนี้มันจะกลายเป็นว่าถ้าวางโครงสร้างไม่ดี มันจะเหนื่อยเปล่า ๆ ครับ


ระบบจัดการร้านอาหาร

FoodStory POS

ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน

ทดลองใช้ระบบฟรี: คลิกที่นี่เลย!

โทร: 065-513-7744 กด 1