ธุรกิจทำร้านสลัด ลงทุนเปิดกิจการได้ง่ายๆ

ธุรกิจทำร้านสลัด เมื่อพูดถึงคำว่าสุขภาพหลายๆคนก็จะนึกถึงการออกกำลังกาย และการกิน ปัจจุบันนั้นคนยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นอย่างเช่น การหันมาทานของที่มีประโยชน์ ก็คงไม่พ้นพวกผักและผลไม้ การกินคือปัจจัยหลังในการดำรงชีวิต ถ้าเราเอาเทรนด์หรือการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมาสร้างเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างเช่น ธุรกิจร้านสลัด ก็อาจจะเป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว ที่จะกอบโกยผลกำไรได้อย่างมหาศาลจากการลงทุนเพียงเล็กน้อย
ในปัจจุบันผู้คนใช้พลังงานน้อยกว่าที่รับอาหารเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดภาวะโรคอ้วนกันมาก ซึ่งหากผู้นั้นไม่ใส่ใจดูแล ควบคุมโภชนาการด้วยแล้ว อาจทำให้เกิดโรคที่ต้องกินยาตลอดชีวิตตามมา เช่น โรคความดันโลหิต หรือเบาหวาน เป็นต้น การเปิดร้านสลัดผัก จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการยุคใหม่มองเห็นหนทาง ว่าธุรกิจสลัดผักนี้จะอยู่รอดไปได้อีกนานเลย ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถขยายธุรกิจขนาดเล็กไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่อย่างเช่นการต่อยอดไปเป็นเฟรนไชน์ได้อีกด้วย

เมื่อคุณเลือกแล้วว่าจะเปิดกิจการเกี่ยวกับสลัดผักและน้ำสลัด ต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณพร้อมหรือยังกับการลงทุนในครั้งนี้ ปัจจัยหลายๆอย่างเช่นพื้นที่การให้บริการก็มีส่วนในการที่จะไม่มีลูกค้าเลยก็ว่าได้ ฉะนั้น(การเลือกทำเลร้าน)นั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ธุรกิจนี้ไม่ต้องใช้เงินลงทุนอะไรเยอะ อาจจะเริ่มต้นประมาณ 5,000 กว่าบาท เท่านั้น แต่ผลกำไรที่ได้กลับมาบอกเลยว่าคุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน เรามาดูองค์ประกอบของธุรกิจนี้ว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
องค์ประกอบของการเปิดร้านสลัด
1. ผักสด

โดยผักสดที่ใช้ก็ต้องสดจริง ๆ อีกทั้งต้องมีรูปร่างที่สวยงามน่ารับประทานและมีสีสันที่ดึงดูดสายตา ยิ่งหากทางร้านเน้นผักปลอดสารพิษด้วยแล้วก็ยิ่งเป็นจุดขายที่ดีเยี่ยม ถึงแม้ต้นทุนจะสูงสักหน่อยแต่ลูกค้าก็ไม่ยอมถอยเช่นกัน เพราะเพื่อสุขภาพแล้วพวกเขาก็จะยอมจ่าย
2. น้ำสลัด

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ น้ำสลัดน้ำใสและน้ำสลัดชนิดครีมข้น ซึ่งแต่ละชนิดนี้ก็มีสูตรในการทำน้ำสลัดมากมาย ซึ่งเจ้าของกิจการก็ต้องขวนขวายหาสูตรที่เจ๋งที่สุดเพื่อนำความอร่อยและการติดใจให้ลูกค้าให้นึกถึงเราและมาเป็นขาประจำนั่นเอง
3. ต้นทุนอุปกรณ์และวัตถุดิบ
เมื่อทำความเข้าใจกับภาพรวมของธุรกิจน้ำสลัดแล้ว ต่อไปมาคำนวณต้นทุนของธุรกิจนี้กันดีกว่าครับ โดยสามารถแบ่งต้นทุนได้เป็น 2 หมวดคือ ต้นทุนในส่วนของอุปกรณ์ และต้นทุนในส่วนของวัตถุดิบ

3.1 ต้นทุนอุปกรณ์
อุปกรณ์นั้นคือต้นทุนอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงให้ดีก่อนไม่แพ้กับวัตถุดิบ การเลืิอกใช้อุปกรณ์นั้นมีผลต่อผลผลิตที่เราสร้างขึ้น หากคุณเลือกใช้ของแพงแต่เนิ่นๆก็อาจจะช่วยลดต้นทุนทั้งเรื่องของเวลาในการทำ หรือระยะเวลาในการใช้งานได้อย่างดี ถ้าคุณเลือกใช้ของถูกหรือสักแต่ว่าใช้อะไรก็เหมือนกันคุณอาจจะต้องเสียตังซื้ออุปกรณ์ชิ้นนั้นใหม่ทุกๆ2เดือน เพราะมันพังเร็วเสียเหลือเกิน
- เครื่องปั่นสำหรับทำน้ำสลัด

เครื่องปั่นไม่ต้องเลิศหรูมากนัก สามารถใช้เครื่องปั่นแบบธรรมดาก็พอ ราคาประมาณ 600 – 1,000 บาท ในส่วนของเครื่องปั่นนี้ คุณลองไปเดินดูตามห้าง,ร้านที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสั่งออนไลน์จาก Lazada ก็สะดวกดีซึ่งจะมีหลายยี่ห้อคุณภาพดีในราคาถูก ขนาดประมาณ 1 – 1.50 ลิตร ก็ใช้ได้แล้ว เชื่อว่าหลายคนมีทักษะในการเลือกเครื่องปั่นอยู่แล้ว ในส่วนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
- เครื่องตีไข่

การเลือกเครื่องตีไข่จะไม่เหมือนกับเครื่องปั่น ซึ่งมีหลักการเลือกที่ต้องคำนึงถึงแรงตีและความสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้นไข่ที่คุณตีจะไม่ได้มายองเนสในระดับคุณภาพ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 900 – 1,600 บาท
- อุปกรณ์กรอง อ่างผสม

อุปกรณ์กรอง เช่น ผ้าขาวบาง ตะแกรงกรอง ราคาไม่เกิน 100 บาท ส่วนอ่างผสมก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น แบบพลาสติก แบบแก้ว อาจจะแพงสักนิด คุณอาจเลือกแบบพลาสติกก็ได้ ราคาประมาณ 50 บาท
- อุปกรณ์อื่น ๆ
อย่างเช่น ไม้ตี ตะกร้อผสม กล่อง ถุงพลาสติก อันนี้งบประมาณก็ไม่เกิน 100 – 1000 บาท
*กล่องและ ถุงพลาสติก* ถือเป็นปัจจัยสำคัญอีกตัวที่ต้องคำนึงให้ดีเพราะมันคือภาพลักษณ์ของธุรกิจของคุณ ลูกค้าจะมองและตัดสินคุณจากสิ่งที่คุณบรรจุอาหารของเขา

3.2 ต้นทุนวัตถุดิบ
ผักสดที่นิยมนำมาใช้เป็นผักสลัด ได้แก่ ผักกาดหอม มะเขือเทศ แครอต ข้าวโพด ถั่วแดง กะหล่ำปลี ลูกเดือย ล้วนเป็นผักที่หาง่ายและราคาไม่แพง โดยต้นทุนเฉลี่ย 50 กล่อง จะอยู่ที่ราคา 300 – 400 บาท

ในส่วนของน้ำสลัดนั้น ต้นทุนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสูตรแต่ละร้านที่จะจับอะไรใส่เข้าไป บางเจ้าใส่น้ำมันกาโนร่า บางเจ้าใส่เห็ดทรัฟเฟิล ก็เป็นอีกกลยุทธที่สามารถดึงดูดลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่หลงไหลวัตถุดิบดังกล่าวเข้ามาหาแต่มันก็จะทำให้มีต้นทุนที่แพงขึ้นและเราก็ต้องขายแพงขึ้นตามไปด้วย หากซื้อน้ำสลัดสำเร็จรูปตามห้างราคาอยู่ที่ประมาณประมาณ 65 บาท ต่อ 2 กิโลกรัม ซึ่งรสชาติก็จะเป็นมารตรฐานจึงทำให้สามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ได้
สามารถดู 12 สูตรน้ำสลัดที่สามารถทำเองได้ง่ายหรือนำไปประยุกต์ต่อ

จะเห็นได้ว่าต้นทุนในการทำร้านสลัดนั้นไม่เยอะยุ่งยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะเงินลงทุนแบ่งเป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ซึ่งใช้งบประมาณไม่กี่พันบาทแล้วต้องนำมาคำนวนเฉลี่ยใช้ตามระยะเวลาที่คาดคะเนว้ามันจะใช้งานได้กี่ปีแล้วถึงเปลี่ยน บวกกับส่วนวัตถุดิบรายวันก็ประมาณ400-500บาท คุณก็สามารถเป็นเจ้าของกิจการได้แล้ว ว่ากันตามจริงแล้วต้นทุนของสลัดผักมีเพียงไม่ถึงครึ่งหนึ่งของราคาขายเลยพอๆกับธุรกิจอาหารประเภทอื่น เพียงแต่ว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้เวลาจัดเตรียมอาหารนานเท่านั้นเอง การบริหารวัตถุดิบให้พอดีและคาดคะเนจำนวนลูกค้าให้สัมพันธ์กัน ก็จะทำให้คุณไม่ต้องเหลือผักในส่วนใหญ่ต้องทิ้งไปด้วยเช่นกัน
สรุป การทำธุรกิจร้านสลัด
ธุรกิจทำร้านสลัด นั้นทำได้ไม่ยาก แต่ก็มีสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือ “ด้านคุณภาพ” ของวัตถุดิบ อย่างองค์ประกอบหลัก เช่น ผักสด น้ำสลัด ต้นทุนอุปกรณ์และวัตถุดิบ

ในการเริ่มทำธุรกิจครั้งแรกคุณอาจจะต้องใช้ตัวช่วยในการบริหารเงินที่ได้รับมา ดังนั้น FoodStory เรามีตัวช่วยที่จะทำให้คุณสะดวกสบายขึ้นและทำให้คุณไม่ต้องเครียดกับยอดเงินและการจัดการวัตถุดิบในแต่ละวัน… อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
GoodFood GoodStory
เพื่อคู่คิดร้านอาหารที่ดีที่สุด เพราะเราเข้าใจที่สุด
ให้ร้านอาหารของคุณกลายเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดด้วย FoodStory จัดการร้านอาหารได้อย่างมืออาชีพ เพียงปลายนิ้วสัมผัส ระบบจัดการร้านอาหารอันดับหนึ่งในไทย

ร้านอาหารที่ดี ต้องมีระบบที่ดีไปพร้อมกัน
✅ทดลองใช้ระบบฟรี: https://signup.foodstory.co/ref/blog-saladbussiness
โทร: 02-821-5665
LINE: https://lin.ee/zAdDsCr